บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก มิถุนายน, 2014

อุตรดิตถ์>ด่านภูดู่>ปากลาย>ไชยะบูลี>หลวงพระบาง แค่ 460 กม. เท่านั้น

รูปภาพ
               จุดผ่านแดนถาวรภูดู่  อ.บ้านโคก  จ.อุตรดิตถ์ นับแต่กระทรวงมหาดไทยได้ประกาศกระทรวงมหาดไทย เมื่อวันที่ 3  พฤษภาคม 2556 ให้เปิดจุดผ่านแดนถาวรภูดู่  หมู่ 2 ตำบลม่วงเจ็ดต้น  อำเภอบ้านโคก จังหวัดอุตรดิตถ์  โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 19 พฤษภาคม 2556  เป็นต้นมา  เพื่ออำนวยความสะดวกในการคมนาคมขนส่ง การพัฒนาเศรษฐกิจการค้าและการท่องเที่ยว  เพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี 2558 นั้น หลังจากที่มีการเปิดด่านถาวรภูดู่เป็นต้นมา  ทำให้การเดินทางจากจังหวัดอุตรดิตถ์ ไปยังเมืองหลวงพระบาง  นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว มีความสะดวกยิ่งขึ้น  ระยะทางจากอุตรดิตถ์ไปยังเมืองหลวงพระบาง สปป.ลาว  มีรายละเอียดดังนี้    * จากจังหวัดอุตรดิตถ์ ไป จุดผ่านแดนถาวรภูดู่    ระยะทาง 160 กม.  ใช้เวลา 2.30 ชั่วโมง    * จากจุดผ่านแดนถาวรภูดู่ ไป เมืองปากลาย       ระยะทาง  38  กม.  ใช้เวลา  40  นาที    * จากเมืองปากลาย ไป แขวงไชยะบูลี               ระยะทาง 150 กม.  ใช้เวลา  3  ชั่วโมง    * จากแขวงไชยะบูลี ไป หลวงพระบาง               ระยะทาง 110 กม.  ใช้เวลา  2  ชั่วโมง ดังนั้นจะเห็นว่าก

จ.อุตรดิตถ์ จัดงานวันส่งเสริมการทำนาในโรงเรียน

รูปภาพ
นายสมชัย กมลเทพเทวินทร์   รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์   (เสื้อสีชมพู) จังหวัดอุตรดิตถ์ ร่วมกับศูนย์เมล็ดพันธ์ข้าวแพร่ และโรงเรียนบ้านกองโค จัดงานวันส่งเสริมการทำนาในโรงเรียน ส่งเสริมให้เยาวชนตระหนักถึงความสำคัญของอาชีพการทำนา   วันที่ 24 มิถุนายน 2557  ที่ผ่านมา  เวลา 09.30 น.  นายสมชัย กมลเทพเทวินทร์   รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นประธานเปิดงานวันส่งเสริมการทำนาในโรงเรียน ประจำปี 2557  ณ โรงเรียนบ้านกองโค ต.คอรุม อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์  โดยมี  นายสถิตย์พงษ์ ศิวะวามร   นายอำเภอพิชัย กล่าวต้อนรับ  นายธีระพงษ์ พุทธรักษา   ผู้อำนวยการศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวแพร่  กล่าวรายงานถึงวัตถุประสงค์การจัดงาน พร้อมด้วย  นายกนต์ธร เกิดบำรุง   ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านกองโค คณะครู และนักเรียนให้การต้อนรับ                                                      รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์   ร่วมทำนาโยน    ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้ จัดขึ้นในรูปแบบบูรณาการร่วมกันระหว่างโรงเรียนบ้านกองโค อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ และศูนย์เมล็ดพันธ์ข้าวแพร่  เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนตระหนักถึงควา

เยาวชนไทย กับ สื่อออนไลน์ รู้เท่าทัน ก่อนสายเกินไป

รูปภาพ
สวัสดีครับ พี่ ๆ เพื่อน ๆ และน้อง ๆ ทุกคน  วันนี้ผมมาเชิญชวนทุก ๆ คนให้ร่วมกันพิจารณาข้อมูลที่ว่าด้วยพิษภัยของสื่อสังคมออนไลน์ทั้งหลายที่มีการนำเข้ามาใช้ในประเทศกันอย่างมหาศาล  และทำให้ปประเทศไทยติดอันดับต้น ๆ ของโลกที่มีประชากรบริโภคสื่อออนไลน์ดังกล่าวค่อนข้างสูงมากจนน่าเป็นห่วง  ผู้เขียนเองอาจจะมีทัศนคติที่ไม่ค่อยดีนักกับพวกสื่อออนไลน์ต่าง ๆ  และมองว่าเป็นความฟุ่มเฟีือย เสียเงินเสียทองไปโดยใช่เหตุ  ประเทศไทยของเราจำเป็นต้องมี หรือต้องใช้สื่อออนไลน์ทุก ๆ ประเภทที่ต่างประเทศผลิตขึ้นเชียวหรือ  การอนุญาตให้มีการนำเข้ามาใช้ในประเทศ  ควรมองที่ความพอดีพอใช้ของคนไทย  มากกว่าความทันสมัยที่แฝงด้วยการทำลายศักยภาพของผู้คนให้ลดน้อยลงโดยเฉพาะ "สติปัญญาและความคิดสร้างสรรค์" ... ผู้มีอำนาจและเกี่ยวข้องกับสื่อสังคมออนไลน์ควรต้องหันมาพิจารณาไตร่ตรอง...เลือกสรรสิ่งที่ดีและเหมาะสมให้กับประเทศของเรากันได้แล้วครับ  ด้วยเหตุผลที่กล่าวแล้วข้างต้น  ผมจึงขอเสนอข้อมูลให้ทุกท่านร่วมกันวิเคราะห์ และสร้างความตระหนักรู้สู่ผู้คนในสังคมต่อๆ กันด้วย  ได้แก่   1) การสำรวจความคิดเห็นของเยาวชนในหั