ช่วงวันพ่อพาเที่ยว อ.บ้านตาก

สวัสดีครับ ช่วงวันหยุด 6 ธันวาคม 2558  ผู้เขียนพาครอบครัวไปเที่ยว อ.บ้านตาก จ.ตาก  โดยใช้การเดินทางไปกลับภายในวันเดียว  จึงต้องเลือกสถานที่ท่องเที่ยวให้เหมาะสมกับการเดินทาง เผื่อเวลาขากลับเพราะเข้าหน้าหนาวมืดค่ำเร็วมาก

ช่วงแรก : แวะเข้าห้องน้ำได้ต้นไม้กลับบ้าน

ออกเดินทางจากอุตรดิตถ์ประมาณ 07.00 น.เศษ ใช้เส้นทาง 102 อุตรดิตถ์-ศรีสัชนาลัย  ถึงศรีสัชนาลัยเปลี่ยนไปใช้เส้นทาง 1113  ศรีสัชนาลัย-ตาก  วิ่งไปเชื่อมต่อเส้นทาง 125 (AH16) และ เส้นทาง 12 ตามลำดับ  ผ่าน อ.บ้านด่านลานหอย  หยุดพักเพื่อเข้าห้องน้ำ ณ ปั้มน้ำมันบางจาก


ซุ้มเรือนไม้ทางเดินเข้าห้องน้ำ


สังเกตให้ดีจะเห็นความสวยงามแปลกตาของพรรณไม้บนซุ้มเหนือทางเดิน


ผู้เขียนได้หยิบกล้องบันทึกภาพ และถามข้อมูลจากคนงานของปั้มน้ำมัน จนได้ความว่า ซุ้มไม้ดังกล่าว ชื่อว่าต้น "ซ้องแมว" แถมมีต้นพันธุ์จำหน่ายอีกด้วย  เราจึงไม่รอช้าที่จะซื้อกลับบ้านจำนวน 4 ต้น + มะนาวอีก 2 ต้น  ทุกต้นราคา 50.- บาท


อีกสักภาพดูกันใกล้ ๆ สำหรับความสวยงามของช่อดอกต้นซ้องแมว


ช่วงที่ 2 : กราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์

เดินทางถึงจังหวัดตาก ประมาณ 09.00 น.เศษ  อากาศยามเช้าที่ จ.ตาก ดีมากไม่มีฝน ลมเย็น ๆ พัดผ่านตลอดเวลาจุดแรกที่พวกเราแวะเข้ากราบไหว้ คือ ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช  


ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช 


สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช 

จากศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช  เราเดินทางตรงไปข้ามสะพานไปยังฝั่งแม่ปิงตะวันตก เลี้ยวขวาไปตามเส้นทาง 1107 (อ.เมืองตาก-อ.บ้านตาก)  บรรจบกับเส้นทาง 1175 ( อ.บ้านตาก-อ.แม่ระมาด) แล้ยวซ้ายไปตามเส้นทาง 1175  โดยมีเป้าหมายแรก คือ เจดีย์ยุทธหัตถี และวัดพระบรมธาตุ  ซึ่งทั้ง 2 จุดตั้งอยู่ไม่ไกลจากกัน


เจดีย์ยุทธหัตถี หรือ เจดีย์เฉลิมพระเกียรติพระเจ้ารามคำแหงมหาราช ชาวบ้านทั่วไปเรียกว่า เจดีย์ชนช้าง ตั้งอยู่บนดอยช้าง ตำบลเกาะตะเภา อ.บ้านตาก ดอยช้างเป็นเนินดินเล็ก  อยู่ทางเหนือของดอยพระธาตุไปเล็กน้อย เจดีย์นี้เป็นโบราณสถาน มีอายุอยู่ในสมัยกรุงสุโขทัยรวม 700 ปีเศษ องค์เจดีย์ยุทธหัตถีอยู่เยื้องกับวัดพระบรมธาตุประมาณ 200 ม. สันนิษฐานว่าพระเจดีย์องค์นี้จะสร้างเพื่อเฉลิมพระเกียรติพ่อขุนรามคำแหงมหาราชในคราวเข้าชนช้างกับขุนสามชน เจ้าเมืองฉอด จนมีชัยชนะ และข้าศึกแตกพ่ายไป
  

ภาพมุมกว้างของเจดีย์ยุทธหัตถี

เสร็จจากเจดีย์ยุทธหัตถี  เราย้อนกลับไปเข้าวัดพระบรมธาตุซึ่งอยู่เยื้องไปอีกฝากหนึ่งของถนนสายบ้านตาก-แม่ระมาด 


 

ผู้เขียนคาดไม่ถึงเลยว่าจะมีผู้คนที่มากมายขนาดนี้  ดูได้จากจำนวนรถยนต์ที่จอดอยู่ทั้งด้านนอกหน้าวัด และลานจอดรถของวัดอีก 2 ลานจอด ภาพนี้เป็นลานจอดรถภายใน


พระบรมธาตุบ้านตาก อำเภอบ้านตาก จ.ตาก เป็นพระธาตุประจำปีมะเมีย (แทนเจดีย์ชะเวดากอง) ตั้งอยู่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำปิง เดิมวัดแห่งนี้เป็นเมืองตากเก่า ก่อนที่จะมีการย้ายตัวเมืองไปอยู่ที่ ต.ระแหง ตัวเมืองตากในปัจจุบัน ห่างไปทางทิศใต้ประมาณ 30 กิโลเมตร อันมีประวัติยาวนานตั้งแต่สมัยพระนางจามเทวี ล่องเรือเสด็จไปเมืองลำพูน หยุดพักบริเวณแห่งนี้ พบว่าเป็นเมืองร้าง จึงได้สั่งให้มีการฟื้นฟูบูรณะเมืองแห่งนี้ จนกลายเป็นชุมชนเมืองตาก


เจดีย์พระบรมสารีริกธาตุ  อันมีกลิ่นหอม เป็นที่ประดิษฐานซึ่งพระอัฐิ คือ กระดูกหน้าผาก และเกศา 4 เส้น ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า  พวกเรากราบไหว้พร้อมเดินเวียนขวา 3 รอบ เพื่อความเป็นมงคลแก่ชีวิต


 ภายในวัดยังมีพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวบวัตถุสิ่งของเก่าแก่ควรค่ามากมาย


ภายในพิพิธภัณฑ์ทางด้านขวามือจะเป็นที่กราบไหว้พระพุทธรูปขาวองค์ใหญ่


ส่วนทางด้านซ้ายมือจะเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงวัตถุสิ่งของเก่าแก่โบราณต่าง ๆ เช่น


 พระพุทธรูปไม้


 โขงใส่พระพุทธรูป ทำจากไม้สักลงรักประดับลายทอง


หีบใส่พระธรรม ทำจากไม้สักลงรักประดับลายทอง


ตู้บริจาคสมัยโบราณ



ช่วงที่ 3 : ไม้กลายเป็นหินที่ใหญ่ที่สุดในทวีปเอเชีย


หลังจากกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว  เราเดินทางย้อนกลับผ่านตัวชุมชนบ้านตากฝั่งตะวันตก ข้ามแม่น้ำปิงทางสะพานบ้านตากเพื่อเดินทางต่อไปยังวนอุทยานแห่งชาติเขาพระบาท ดูไม้กลายเป็นหินที่ใหญ่ที่สุดในทวีปเอเชีย  ซึ่งตั้งอยู่บริเวณท้องที่หมู่ที่ 7 ตำบลตากออก  ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่สลิด -โป่งแดง   ปากทางเข้าอยู่ตรงบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 443 ทางหลวงหมายเลข 1 (ถนนหหลโยธิน) ตรงกันข้ามกับโรงพยาบาลบ้านตากในปัจจุบัน  ไม้กลายเป็นหินที่พบยาว 72.22 เมตร และเส้นผ่านศูนย์กลาง 1.80 เมตร   เป็นไม้กลายเป็นหินที่ใหญ่ที่สุด ตั้งแต่มีการค้นพบในทวีปเอเชีย  โดยไม้กลายเป็นหินจัดเป็นฟอสซิลชนิดหนึ่งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ  โดยเกิดจากซากต้นไม้ที่ถูกแทนที่ด้วยน้ำบาดาลซึ่งสารละลายของซิลิกา และเกิดการตกตะกอนกลายสภาพเป็นหินอย่างช้า ๆ  คือแทนที่แบบโมเลกุลจนกระทั่งกลายเป็นหินทั้งหมด โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงรูปร่างและโครงสร้างอีก 


ภาพเก่าของไม้กลายเป็นหิน 1 อีกภาพหนึ่ง จาก http://bantak-travel.blogspot.com 

DSC_0005.jpg

ภาพถ่ายไม้กลายเป็นหิน 1 ปี 2552  ของ http://www.utdhome.com 


ไม้กลายเป็นหิน 1 ขุดพบครั้งแรกเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2546  โดยการนำของ นายวชิระ  ม่วงแก้ว  ป่าไม้เขตตาก ได้ทำการขุดเปิดหน้าดินจนสุดลำต้นเมื่อปี 2548  ความโตเส้นผ่าศูนย์กลางเฉลี่ย 1.80 เเมตร อายุประมาณ 800,000  ปี


ไม้กลายเป็นหิน 1  


ผู้เขียนถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึก


ภาพไม้กลายเป็นหิน 1 ถ่ายจากด้านบนไปด้านล่าง


ภาพไม้กลายเป็นหิน 2  มีความยาว  31.30 เมตร  กว้าง 0.50 เมตร  ลักษณะใกล้เคียงกับไม้มะค่าโมง อายุมากกว่า 8000,000  ปี


ภาพไม้กลายเป็นหิน 2


ภาพไม้กลายเป็นหิน 3 ยาว 32.40 เมตร กว้าง 2.10 เมตร ลักษณะใกล้เคียงกับไม้ทองบึ้ง  อายุมากกว่า 800,000  ปี


ภาพไม้กลายเป็นหิน 3 


ภาพเก่าไม้กลายเป็นหิน 7  จาก http://bantak-travel.blogspot.com  ขนาดความโตเฉลี่ย 1.50 เมตร ยาว 38.70 เมตร 

เดินชมไม้กลายเป็นหิน จากทั้งหมด 7 ต้น เราเดินชมได้เพียง 3 ต้น ที่เหลือขอเก็บไว้ในโอกาสต่อไป ข้อมูลเพิ่มเติมก็คือ นอกจากไม้กลายเป็นหินแล้ว บริเวณวนอุทยานยังมีไม้ป่าหายากอีกหลายชนิดด้วยกัน ซึ่งทางวนอุทยานได้แสดงป้ายชื่อไม้ต่าง ๆ ไว้เป็นอย่างดี เช่น ต้นเต็ง  ต้นรัง  ต้นแดง  เป็นต้น  เราออกเดินทางกลับอุตรดิตถ์  โดยใช้เส้นทางหมายเลข 1  ถึงสี่แยกเยื้องหน้าศาลากลางจังหวัด เลี้ยวซ้ายผ่านตลอด และใช้เส้นทางเดิม ผ่าน อ.บ้านด่านลานหอย - อ.ศรีสัชนาลัย - จ.อุตรดิตถ์  โดยสวัสดิภาพ...


ขอบคุณ :   1) http://123.242.165.136  

              2) http://www.utdhome.com  

              3) http://bantak-travel.blogspot.com

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

หลวงพ่อฮวบ วัดสามัคยาราม ต.บ้านด่าน อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์

หลวงพ่อกล่อม พรมสโร วัดป่ากะพี้ อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์

พระครูธรรมฐิติวงศ์คีรีเขตร (บุญใหญ่ อินทปญโญ) วัดเจดีย์คีรีวิหาร อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์