ธรรมชาติที่บริสุทธิ์สดใส & ท่องไพรไต่ภูเมี่ยง



ภูเมี่ยง...จาก FB เรื่อง-เล่า-ระหว่างทาง

ในช่วงปลายฝนต้นหนาว หรือไม่ว่าจะเป็นช่วงใด  หากท่าน หรือกลุ่มของท่านกำลังมองหาสถานที่ที่เกี่ยวกับภูเขาหรือยอดดอย และสีสันของธรรมชาติ  เราขอแนะนำให้ท่านรู้จักกับ หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติต้นสักใหญ่ สญ.1 (ต้นขนุน)  บ้านต้นขนุน หมู่ที่ 3 ต.น้ำไผ่ อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ 53110 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติต้นสักใหญ่  ทั้งนี้เนื่องจากบริเวณหน่วยพิทักษ์ ฯ ดังกล่าวมีจุดเด่นด้วยกัน 2 ประการ คือ ประการแรกจุดที่เป็นที่ตั้งของหน่วยพิทักษ์ ฯ มีสภาพภูมิศาสตร์ที่เหมาะแก่การพักผ่อนแบบครอบครัว หมู่คณะ มีสถานที่ให้ตั้งแคมป์พักแรม การจัดสัมมนากลุ่มย่อย ค่ายเยาวชนกลุ่มเล็ก ๆ หรือแม้กระทั่งการถ่ายทำภาพยนตร์  ประการที่สอง สำหรับท่านที่ชื่นชอบการศึกษาธรรมชาติ และผจญภัยเดินป่าปีนเขาสูง  เรามีน้ำตกคลองตรอน และอีกหลายแห่ง รวมทั้ง "ภูเมี่ยง " ให้ท่านได้ทดสอบร่างกาย และจิตใจกันอย่างเต็มเหนี่ยวเลยทีเดียว..ครับ 



อุทยานแห่งชาติต้นสักใหญ่

อุทยานแห่งชาติต้นสักใหญ่ มีพื้นที่ป่าที่สมบูรณ์ มีเนื้อที่ประมาณ 324,240.80 ไร่ หรือ 518.80 ตารางกิโลเมตร ได้รับการประกาศจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2546 โดยอุทยานแห่งชาติต้นสักใหญ่  มีพื้นที่ครอบคลุมป่าน้ำปาด  ป่าปากห้วยฉลอง  ป่าห้วยสีเสียด ป่าคลองตรอนฝั่งขวา และป่าคลองตรอนฝั่งซ้าย ในท้องที่ตำบลแสนตอ ตำบลน้ำไคร้ ตำบลน้ำไผ่ อำเภอน้ำปาด  ตำบลถ้ำฉลอง อำเภอเมืองอุตรดิตถ์  ตำบลผาเลือด อำเภอท่าปลา และตำบลน้ำพี้ ตำบลผักขวง ตำบลบ่อทอง อำเภอทองแสงขัน จังหวัดอุตรดิตถ์  มีจุดเด่นทางธรรมชาติที่สำคัญ และสวยงาม คือ น้ำตกคลองตรอน  น้ำตกห้วยทราย  ถ้ำจัน ถ้ำเจดีย์ ถ้ำเสือดาว ถ้ำผาตั้ง เขาภูเมี่ยง และหน้าผาที่สวยงามเป็นที่รู้จักทั่วไป  นับเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 103 


แผนที่แสดงที่ตั้ง อช.ต้นสักใหญ่ กับ หน่วยพิทักษ์ ฯ สญ.1 (ต้นขนุน)

จากแผนที่ข้างต้นแสดงให้เห็น จุดที่เป็นที่ตั้ง ที่ทำการอุทยานแห่งชาติต้นสักใหญ่ และอ่างเก็บน้ำเขื่อนคลองตรอน จะอยู่บนเส้นทางหมายเลข 1047  ส่วนหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ที่ สญ.1 (ต้นขนุน) อยู่บนเส้นทางหมายเลข 1212  โดยสรุป สามารถใช้เส้นทางได้ทั้ง หมายเลข 1047 และ 1146  เพื่อไปยัง อ.น้ำปาด  แล้วต่อด้วยเส้นทางหมายเลข 1239  และเลี้ยวขวาเข้าเส้นทางหมายเลข 1212 ตามลำดับ


แผนผังแสดงที่ตั้งหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ที่ สญ.1 (ต้นขนุน)



หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ที่ สญ.1 (ต้นขนุน)

เส้นทางเข้าสู่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ที่ สญ.1 (ต้นขนุน) สะดวกสบายตลอดทั้งปี

     

 ** อาคารสถานที่ของหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ที่ สญ.1 (ต้นขนุน)

 

ที่ทำงานของบุคลากรหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ที่ สญ.1 (ต้นขนุน)

 

เหนื่อยนัก..พักก่อน..กับอาคารเอนกประสงค์

 

เรือนพักชื่อ  บ้านผากล้วยไม้ 

 

เรือนพักชื่อ บ้านผาดอกกระเจียว

**บริเวณรอบ ๆ หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ที่ สญ.1 ต้นขนุน)

 

พื้นที่ที่เป็นสนามหญ้าสำหรับกางเต้นท์ หรือเดินพักผ่อน

 

มีน้ำตกเล็ก ๆ ช่วยสร้างบรรยากาศสดชื่นแก่ผู้มาเยือน

 

มีลำห้วยหรือสายน้ำแห่งคลองตรอนไหลผ่าน

 

 สะพานไม้ข้ามคลอง..ชวนให้ออกไปเดินเล่น หรือออกกำลังกายเบา ๆ 

 

 **น้ำตกคลองตรอน  หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า "น้ำตกห้วยโป่ง" เป็นน้ำตกขนาดกลางซึ่งเกิดจากห้วยคลองตรอน ที่ไหลตกลงมาเป็นน้ำตกหลายชั้น เป็นเส้นทางเดินเท้าโดยจะเริ่มจากที่ทำการหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ที่ สญ.1 (ต้นขนุน)  ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร  ลักษณะของน้ำตกมีทั้งหมด 8 ชั้น  แต่เนื่องจากถูกดินโคลนถล่ม เมื่อปี พ.ศ. 2554  จึงทำให้น้ำตกเหลืออยู่ 1 ชั้นมีความสูง 13 เมตร  สวยงามตามธรรมชาติ  มีจุดที่น่าสนใจอีกอย่างคือ  เต่าปูลู    ซึ่งเป็นเต่าที่มีลักษณะพิเศษ    คือ  หัวโตแบน  ปากงุ้มเป็นขอและแหลมคม  คอยาว หางยาว  หัวและขาไม่สามารถหดเข้าไปในกระดองได้  ซึ่งจะพบที่น้ำตกคลองตรอน  และแหล่งน้ำบริเวณใกล้เคียง  นอกจากนั้นยังมีน้ำตกอีกหลายแห่งที่มีความสวยงามแตกต่างกันออกไป  ได้แก่  น้ำตกห้วยทราย,  น้ำตกภูเมี่ยง,  น้ำตกห้วยเนียม  และน้ำตกห้วยคอม 

 

    น้ำตกคลองตรอน 


  

 เต่าปูลู..เป็นสัตว์อนุรักษ์ที่พบได้เฉพาะแหล่งน้ำตามภูเขาของภาคเหนือมากที่สุด (http://www.thairath.co.th)

 

  ช่วยกันดูแลรักษาอย่าให้สูญพันธุ์ ... ปัจจุบันเหลืออยู่ไม่มากแล้วตามธรรมชาติ (http://www.thairath.co.th)


ภูเมี่ยง  ตั้งอยู่บริเวณหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ที่ สญ.1 (ต้นขนุน) มีลักษณะเป็นเทือกเขาแบ่งเขตจังหวัดระหว่างอุตรดิตถ์ - พิษณุโลก  มีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 1,656 เมตร  มีจุดเด่น เฉพาะตัว เป็นหน้าผาขนาดใหญ่   บนยอดภูเป็นทุ่งหญ้า สามารถมองเห็นทิวทัศน์ได้ทั้ง  2  จังหวัด คือ อุตรดิตถ์ และจังหวัดพิษณุโลก เป็นเส้นทางระยะไกลเดินเท้าศึกษาธรรมชาติจากที่ตั้งหน่วยพิทักษ์ ฯ ถึงยอดภูเมี่ยง รวมระยะทาง  11  กิโลเมตร 


2 กิโลเมตรแรก ถึงน้ำตกคลองตรอน  เดินผ่านน้ำตกคลองตรอนขึ้นไปจะเป็นป่าดิบแล้ง  ศึกษาพรรณไม้และระบบนิเวศน์ของป่าดิบแล้งพร้อมความหลากหลายทางธรรมชาติ  ระยะทาง 9 กิโลเมตรต่อไป เส้นทางจะเป็นเนินเขาทั้งหมด 8 เนิน ได้แก่  1.เนินหยั่งเชิง  2.เนินท้าพิสูจน์  3.เนินรอคอย 4.เนินชุ่มฉ่ำ  5.เนินสยบเซียน  6.เนินกระทือ 7. เนินเหิรเวหา  8.เนินวิหกถลาลม  และหน้าผาอีก 4 ผา คือ 1.ผาเริงรมย์  2. ผาแดง  3. ผาชมหมอก  4. ผาวัดใจ ถึง ยอดภูเมี่ยง  ศึกษาความสมบูรณ์ของธรรมชาติแบบ 360 องศา และดอกลิลลี่ป่า  กุหลาบพันปี ข้าหลวง ดงตาว เอนอ้า และขันหมากป่า  และตามเส้นทางจะมีน้ำตกหลายแห่ง  ซึ่งมีลักษณะความสวยงามแตกต่างกันออกไป  เหล่านี้จึงทำให้ยอดภูเมี่ยงเป็นอีกแห่งหนึ่ง ที่อยู่ในความสนใจของผู้รักความท้าทาย และความสวยงามตามธรรมชาติของ ทุ่งหญ้า ป่าเขา ลำเนาไพร  

บันทึกแห่งความทรงจำของกลุ่มผู้พิชิตภูเมี่ยง 

1.จาก FB ของ เรื่อง-เล่า-ระหว่างทาง เมื่อ ตุลาคม 58  มีภาพและคำบอกเล่า..บางช่วงบางตอน..ถึงการพิชิตภูเมี่ยงของพวกเขาไว้อย่างน่าสนใจ..ว่า.. 

[Day#1] # เซทกลุ่มคนเดินทางเล็กๆได้ 8คน ภายใต้วีถีการเฉลี่ยทั้งความสุข-ทุกข์ที่จะพานพบ หัวหน้าเสมียน (หัวหน้าหน่วยพิทักษ์ฯต้นขนุน อช.คลองตรอน) ที่เราประสานงานไว้ก่อนหน้านี้ เตรียม เจ้าหน้าที่นำทาง 1 คน และเจ้าหน้าที่มือดีที่เปลี่ยนหน้าที่เป็นลูกหาบให้พวกเราอีก 2 คน ... 

 

ราว 10.30 น. ก็เริ่มออกเดินเท้ากันล่ะนะ…..เนิน 1 เนินหยั่งเชิง/เนิน 2 เนินท้าพิสูจน์  มีเดินตัดลำธารน้ำตกบ้างปะปราย ... เจ้าหน้าที่ บอกว่าคืนก่อนที่เราจะมา เมฆฟ้าหอบฝนเม็ดใหญ่มาโปรยให้ป่าชื้นขึ้นมาบ้างแล้ว ... มิน่าล่ะ! ผืนป่าคืนสภาพเขียวขจี หายใจได้โล่งดี จริงเชียว ... ราวบ่ายโมง ขณะไต่สู่ เนิน 3 เนินรอคอย และเนิน 4 เนินชุ่มฉ่ำ ฝนเม็ดโตก็โปรยลงสู่ผืนป่าต้นน้ำคลองตรอน ให้พวกเราได้ฉ่ำ+ชื้น+แฉะ และสนุกสนานกับเส้นทางอย่างดินเหนียวของป่าไผ่ ดินร่วนของป่าฝน และหินลื่นของธารน้ำตก (ก็ถวิลหารสชาติการเดินทางแบบนี้เองนี่นา) # ราวสี่โมงเย็น พวกเราก็มาถึง “ลานดงลูกพลับป่า” แคมป์ที่พักคืนแรก ...   

 
 


[Day#2] # ตะวันขึ้นสาดแสงทาบผืนป่านานแล้วนะ แต่มนุษย์ขึ้เกียจกว่าจะสลัดความง่วง และไต่ลงจากเปลก็ปาไปเกือบ 7 โมง ... เสพอาหารและบรรยากาศยามเช้าได้พอประมาณ ก็ถึงเวลาเก็บแคมป์และเดินเท้าสู่ยอดเขากันต่อแล้วล่ะ ... เริ่มต้นที่เนิน 5 – เนินสยบเซียน แต่ขอเรียกว่าเนินป่ากล้วย น่าจะเหมาะกว่านะ เนินนี้ชันพอประมาณ ต้นกล้วยล้มที่เปื่อยๆ น้ำฉ่ำๆ ลื่นทีสนุกสนานกันเพลินเลยจ้า :D # เนิน 6 เนินกะทือ เราไต่ระดับจากป่าก่อที่ลูกก่อร่วงลงเต็มพื้นพอน่ารักจนมากมาย 

 
 


บริเวณเนิน 7 เนินเหิรเวหา ด้วยทางชันๆ กับระยะทางสั้นๆเพียง 250 เมตร เราใช้เวลาเดินกันนานเลยล่ะ ยิ่งต่อเนื่องกับเนิน 8 เนินวิหคถลาล้ม เอ้ย ! วิหคถลาลม ... ณ จุดนี้ เวลาบ่ายโมงตรงพอดี หมอกขาวเริ่มจางหาย ฟ้าเปลี่ยนเป็นสีเทา เมฆกลั่นฝนเม็ดโตให้พวกเราได้ชุ่มฉ่ำและแฉะกันอีกแล้ว ... 

 
 

จากเนินของสันเขาสู่ผาภู เริ่มต้นที่ ผารื่นรมย์ (ผา 9 = 1,505 เมตร) แต่ตอนนี้พี่หาได้รื่นรมย์ไม่ ไต่ต่อไปยังผาแดง (ผา 10) งานนี้ต้องปลดไม้เท้า กอดก้อนหินเพื่ออ้อมสู่ทางเดินอีกด้าน กับพื้นที่วางเท้าแค่คืบเท่านั้น แค่คืบจริงๆนะคะ  งานนี้มีเสียวพุงเลยอ่ะ แต่โชคดีที่มีหมอกขาวช่วงพรางตาความสูงของรอบข้างเอาไว้ ... ต่อไปก็ผาชมหมอก (ผา 11) และผาวัดใจ (ผา 12) ไต่ชันๆกันเลยจ้า แล้วก็หันมาถาม เจ้าหน้าที่ว่า... ...... “ ไหนอ่ะคะ ยอดภูเมี่ยง? ” เจ้าหน้าที่หันขวับมาโดยไวและตอบว่า “ก็ยอดที่พวกพี่กำลังยืนอยู่นี่แหละครับ” … 

 

[Day#3] # เช้าวันอาทิตย์มาทักทาย.. ไปเข้าห้องน้ำห้องท่า แล้วไต่ไปยอดภูเมี่ยง เพื่อเก็บบรรยากาศอีกฝั่งที่ว่าจักได้เห็นวิวเขื่อนดิน (เขื่อนสิริกิติ์) แต่ได้เห็นแค่ทะเลหมอกที่มีให้เห็นในระยะไกล แต่ก็สุขใจนะ ... มื้อเช้ากับบรรยากาศสบายๆ หาได้รีบเร่งไม่ งานนี้ค่อยละเลียดบรรยากาศรอบตัว รอตาก Flysheet ให้น้ำค้างระเหยก่อนนะ ... แดดเริ่มแรงแล้วแหะ ถ้าเช่นนั้นก็เก็บเพิงพักดีกว่า กว่าจะได้เวลาลงภูก็ปาไปเกือบๆ 10 โมงกว่าๆ เช่นเคย

 

จากจุดพักบนยอดภูถึงป้ายเนินที่ 7 มนุษย์ป้าขาลง(แกมสั่น) ใช้เวลาราว 1 ชั่วโมงเองค่ะ มองย้อนกลับไปดู ช่างไกลเหลือเกินอ่ะ ได้แต่ถามตัวเองว่าเราไปถึงจุดนั้นได้ยังไงกัน! ...ราวเกือบบ่ายโมง ฝนเจ้าประจำก็มาทำหน้าที่ตามนัดโปรยลงให้ความฉ่ำชื้นแก่ผืนป่าตามเวลานัดเลย แต่เราไม่ค่อยเปียกเท่าไรนัก เพราะอยู่ใต้ร่มเงาของป่าดิบชื้น เดินอีหน่อยก็ถึงน้ำตก แวะกินข้าวเที่ยงเติมพลังกุนเชียงและหมูยอกันหน่อยคลุกกับน้ำพริกภูเมี่ยง 

บ่ายสามโมงครึ่งโดยประมาณ  พวกเราก็ถึงหน่วยพิทักษ์ อช....กับ 4 กม.สุดท้ายเราใช้เวลาราว 40 นาทีเท่านั้นเอง ก็ถึงที่ทำการ อช. ได้อาบน้ำอาบท่าด้วยเครื่องทำน้ำอุ่น ผลัดผ้าเน่ากันแล้วจ้า...จากนั้นก็เก็บข้าวเก็บของแล้วล่ำลาเจ้าหน้าที่ กลับกรุงฯกัน   ขอบคุณเจ้าหน้าที่ อช.ทั้งสามที่ดูแลและให้ความเป็นกันเองดุจพี่น้องเลยจ้า โอกาสหน้าจิไปเยือนภูเมี่ยงอีกเด้อค่ะเด้อ.....

2. จาก http://iamvisitor.com  เมื่อ ตุลาคม 58 เช่นกัน  ได้บอกเล่า และมีภาพการเดินทางสู่ภูเมี่ยงของกลุ่มพวกเขาได้น่าติดตามจริง ๆ 

เส้นทางภูเมี่ยงจะเริ่มจากตรงนี้แหละครับ จะประกอบด้วย 8 เนิน 4 ผา  วันแรกที่เดินจะไปนอนพักที่ช่วงปลายเนินที่ 4 ก่อนขึ้น เนินที่ 5 ณ ลานลูกพลับ 

  

เนินแรกนี้ถือว่าขึ้นอย่างเดียวเลยครับ หนักเอาการ ส่วนเนินที่สองมีขึ้นมีลงตามสภาพแต่ขากลับเนินสองถือเป็นอุปสรรคของชีวิตมากๆ

 

สถานที่กินข้าวกลางวันและกินน้ำจากที่นี้ละครับ น้ำดื่มคลองตรอนของแท้ต้องมีตะกอน

  

รวบรวมพลังแล้วไปต่อที่เนินสาม  ช่วงเนินสามจะเห็นน้ำตกเยอะมากๆ และมีจุดที่ต้องปีนเยอะด้วย

  

ปีนน้ำตกขึ้นมาก็จะพบเนิน 4 เนินนี้ค่อนข้างจะอันตรายเลยทีเดียวเนื่องจากทางราดชันและทางเดินก็ชวนเสียวสันหลังกันเบาๆ  เจอน้ำตกตรงนี้แล้วก็ปีนผาลื่นๆเพื่อลัดเลาะขึ้นไปบนสันน้ำตก  หลังจากที่เดินหวาดเสียวและขาจะเป็นตระคริวบ่อยครั้งก็ได้พักที่น้ำตกสองชั้นตรงนี้จัดว่าแจ่มครับ

  

พ้นตรงนี้อีก 50 เมตรตามคำบอกเล่าของเจ้าหน้าที่ก็จะถึงที่พักแล้ว แต่ก็เดินกันราวๆ 20 นาทีก็ถึงลานลูกพลับแล้ว

   

พอมาถึงลานลูกพลับก็พบว่ามีคุณลุงวัย 67 ปีมาถึงก่อนเราแล้วช่างแข็งแกร่ง ส่วนที่นี้ระวังทากกับเห็บลมด้วยนะครับ

 

เจ้าหน้าที่ดูแลอย่างดีด้วยการหุงข้าว,หาน้ำดื่มมาให้หรือหาใบตองมารองที่นอน 

 


วันที่สอง  วันนี้เราตื่นกันราวๆหกโมงเช้าสำหรับทำอาหารและเก็บข้าวของเพื่อเดินไปบนยอดภูเมี่ยง ก็เริ่มเดินราวๆ 8 โมงครึ่ง  ใครคือเซียนเจอเก็บแน่นอน ทางเดินก็ไม่มีอะไรมาก เดินขึ้นเรื่อยจนถึงสันเขา

 

ต่อกันด้วยเนินต่อไปเลย..เนินนี้ยังชิวๆยังมีวิวมีอะไรให้เห็น ถือว่าเดินไม่ลำบากมาก

 

ต่อด้วยเนิน 7 และ 8 สองเนินนี้จะเริ่มชันขึ้นเรื่อยและค่อนข้างที่จะลื่น

 
 

หลังจากพ้นเนิน เราก็จะเริ่มเจอ  บอกเลยว่าทางชันมากๆจนพักกันแทบทุกๆไม่กี่ก้าว พอหลังจากพ้นผา 1 ไปเท่านั้นแหละครับ โอ้วววว...

 

นี้เรามาทำอัลไรกัน ทางชันและหวาดเสียวมาก

 

ตั้งแต่ตรงนี้ไปควรจะมีสติตลอดทางนะครับ ตกทีมีกลับจุดเซฟแน่นอน

 

อีกนิดเดียวเท่านั้นเราก็จะถึงยอดภูเมี่ยงแล้ว กลั้นใจเดินไปอีก 

 

แวะพักเหนื่อยก่อนจะถึงผาที่ 4

 

ผาสุดท้ายแล้วครับ ชื่อมัน classic มาก  

  

ในที่สุด...ก็มาถึงยอดจนได้ก็มาถึงเวลาประมาณบ่ายเกือบบ่ายสอง หลังจากนั้นก็เตรียมที่นอนและบนยอดไม่มีน้ำ แต่ทางเจ้าหน้าที่จะลงไปเอาน้ำมาให้นะครับ ซึ่งวันที่เดินขึ้นมายอดนี้ต้องรักษาเวลากันนิดนึงครับ จะได้มีเวลาให้เจ้าหน้าที่ลงไปเอาน้ำดื่มมาให้ครับ

  

หลังจากที่เตรียมที่พักรับประทานอาหารอะไรกันเรียบร้อยก็ฆ่าเวลากันไปพรางๆจนถึงตอนเย็นๆ  ตกเย็นก็ไปขึ้นยอดกันเลย เพื่อจะดูพระทิตย์ตก ว่ากันว่าบนยอดที่นี้สามารถมองเห็น ยอดสูงสุดของภูสอยดาว และ ภูเรือ

 

เนื่องจากฟ้าปิดจึงอดเห็นพระอาทิตย์ตกเลย  หลังจากลงยอดมาก็เจอนกให้ดูบ้างแก้ขัดไม่เห็นพระอาทิตย์ตก 

 

กับข้าวตอนเย็นไม่มาม่า..ก็บุญแล้วละ

 

บรรยากาศยามค่ำคืน...สำหรับวันนี้ราตรีสวัสครับ

 

ช้าวันสุดท้าย  วันนี้หลักก็มีแค่ขึ้นยอดดอยตอนเช้ามืดและลงดอยโดยทางเดิม ก็เริ่มจากบรรยากาศบนยอดตอนเช้ามืดครับ 

 

เส้นทางลงภูเมี่ยงตรงจุดพักเลย มีต้นเมเปิลให้ดูชมด้วยสิ

 

ถึงที่ทำการหน่วยพิทักษ์ ฯ เกือบจะบ่ายสาม.....ลาก่อนภูเมี่ยง 

3. จาก FB  ของ อุตรดิตถ์ 24 ชั่วโมง & นายนิรันดร์  เทพพัด & เดอะเพลสอุตรดิตถ์ & ชีวิตบนผืนเปล ลมหายใจเพื่อผืนป่า  เมื่อเดือน ส.ค. และ ก.ย. 59  ได้เก็บภาพการเดินทางพิชิตภูเมี่ยงมานำเสนอไว้อย่างน่าสนใจ 

การเตรียมความพร้อมในการเดินทาง 

 

ประมวลภาพการเดินทางขึ้นสู่ยอดภูเมี่ยง 

  
  
  
  

  

  

พันธุ์ไม้ป่าที่แปลกตา 

  
  
  

ถึงแล้ว...บนยอดภูเมี่ยง 

  
  
  
  
 

การติดต่อประสานงาน  เนื่องจากหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ที่ สญ.1 (ต้นขนุน) มีบ้านพักรับรองในจำนวนที่จำกัด  หรือสถานที่กางเต็นท์  จำเป็นต้องขอความร่วมมือจากหมู่คณะที่จะเข้าใช้บริการ  ติดต่อสอบถามได้โดยตรงกับ คุณเสมียน 088-429-5487 หน.หน่วยพิทักษ์ อช. ต้นสักใหญ่(ต้นขนุน) หรือ โทร. 055-282-347  สอบถามข้อมูล บ้านพัก จุดกางเต็นท์

โดยเฉพาะคณะที่ต้องการท่องไพรขึ้นภูเมี่ยง กรุณาติดต่อประสานงานล่วงหน้าแต่เนิ่น ๆ เพราะเจ้าหน้าที่เท่านั้นที่จะพาขึ้นไป ลูกหาบไม่มี  ออกทริปใช้เวลา 2 คืน 3 วัน  จัดเตรียมอุปกรณ์ในการเดินป่าและของใช้ส่วนตัว และอย่าลืมเตรียมร่างกายและจิตใจให้พร้อม 100 %  





ขอบคุณ : 1. http://park.dnp.go.th  2.หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติต้นสักใหญ่ ที่ สญ.1(ต้นขนุน) 
                   3. http://www.sadoodta.com     4. http://www.kmuttaradit.com          
                   5. FB. อุตรดิตถ์ 24 ชั่วโมง           6. FB. เดอะเพลสอุตรดิตถ์ 
                   7. FB. นายนิรันดร์  เทพพัด           8. http://www.thairath.co.th
                   8. FB. เรื่อง-เล่า-ระหว่างทาง         9. FB. ชีวิตบนผืนเปล  ลมหายใจเพื่อผืนป่า 
                 10. https://www.youtube.com

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

หลวงพ่อฮวบ วัดสามัคยาราม ต.บ้านด่าน อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์

หลวงพ่อกล่อม พรมสโร วัดป่ากะพี้ อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์

พระครูธรรมฐิติวงศ์คีรีเขตร (บุญใหญ่ อินทปญโญ) วัดเจดีย์คีรีวิหาร อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์