สนามบินอุตรดิตถ์จะกลับมาได้หรือไม่...เชียร์สุดสุด

ผ่านฉลุย ประชาคมที่ดินสาธารณะประโยชน์หนองปืนแตก ให้เป็นที่ราชพัสดุ เตรียมรับ “สนามบิน”

เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2557  ผู้เขียนได้เคยนำเสนอเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับสนามบินของอุตรดิตถ์ ในชื่อเรื่องว่า " เล่าเรื่องเมืองอุตรดิษฐ์..ตอน..คิดถึงสนามบิน " มาแล้ว จนกระทั่ง 25 เมษายน 2561 ดูว่าน่าจะเป็นข่าวดีในรอบ 43 ปีของชาวอุตรดิตถ์ที่จะได้สนามบินกลับคืนมาอีกครั้งหนึ่ง แต่จะมีความก้าวหน้าต่อเนื่องอย่างไรน่าจะรู้ได้ในอนาคตอันใกล้นี้

สนามบินอุตรดิตถ์ ห่างจากตัวเมืองอุตรดิตถ์ขึ้นไปตามทางหลวงหมายเลข 1045 (อุตรดิตถ์ – เขื่อนสิริกิติ์) ประมาณ 15  กิโลเมตร  สนามบิน จ.อุตรดิตถ์ ตั้งอยู่ที่หมู่ 2 ต.ผาจุก อ.เมืองอุตรดิตถ์  มีพื้นที่ทั้งหมดราว 1,000 ไร่เศษ รันเวย์กว้าง 30 เมตร ยาว 1,600 เมตร  ปัจจุบันยังคงมีร่องรอยของสนามบินให้เห็นอยู่ทางทิศตะวันออกของที่ตั้งสำนักงานเทศบาลตำบลผาจุก 

สนามบินอุตรดิตถ์(เดิม) ก่อสร้างโดยกรมการบินพาณิชย์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับคณะวิศวกรในการเดินทางมาควบคุมตรวจงาน และขนส่งวัสดุอุปกรณ์ ในการสร้างเขื่อนสิริกิติ์ ขณะเดียวกันทางบริษัทเดินอากาศไทย  ซึ่งต่อมาได้ยุบไปรวมกับบริษัทการบินไทย เป็นผู้เข้ามาเปิดดำเนินการบริการด้านพาณิชย์ ให้บริการประชาชนทั่วไป นักธุรกิจใช้บริการ แต่ด้วยภาวะเศรษฐกิจที่ไม่สู้ดีนักขณะนั้น ทำให้นักธุรกิจและประชาชนไม่ใช้บริการ บริษัทจึงไม่คุ้มกับการบิน จึงหยุดบินพร้อมกับการปิดตัวลงของท่าอากาศยานอุตรดิตถ์ ในปี 2518

ภาพถ่ายทางอากาศ..มองเห็นรันเวย์สนามบินพาณิชย์ของอุตรดิตถ์

  

ร่องรอยของรันเวย์สนามบินที่ยังเหลืออยู่ให้เห็น

25 เมษายน 2561 ณ ศาลาเอนกประสงค์ บ้านหนองบัว หมู่ 9 ต.ผาจุก อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ นายสมชัย มั่นเข็มทอง นายกเทศมนตรีตำบล (ทต.) ผาจุก พร้อมผู้บริหาร กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และเจ้าหน้าที่ ทต.ผาจุก ทำประชาคมหมู่บ้านเพื่อให้พื้นที่สาธารณะประโยชน์ที่ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกันบริเวณหนองปืนแตก บ้านวังยาง หมู่ 2 ต.ผาจุก พื้นที่ 1,085 ไร่เศษ ให้เป็นที่ราชพัสดุ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของนายเสฐียรพงศ์ มากศิริ ผู้ว่าราชการ จ.อุตรดิตถ์ ที่จะต้องผ่านความเห็นชอบจากประชาชนทั้ง 14 หมู่บ้านของ ต.ผาจุกเสียก่อน ก่อนที่จะนำผลการประชาคมโดยสรุปว่า 100 เปอร์เซ็นต์ของประชาชนเห็นชอบให้เปลี่ยนเป็นที่ราชพัสดุ โดยขั้นตอนต่อไปก็จะส่งเรื่องให้กับจังหวัดดำเนินการต่อไป

และเหตุที่จังหวัดให้ดำเนินการทำประชาคมหมู่บ้านเนื่องจาก มีบริษัทเอกชนรายหนึ่งมาหารือกับทางจังหวัด และภาคเอกชน เพื่อจะขอเข้ามาพัฒนาสนามบินเก่าให้กลับมาเปิดบริการเชิงพาณิชย์อีกครั้ง ซึ่งเป็นการลงทุนโดยบริษัทเอกชนไม่ใช่เป็นการลงทุนโดยภาครัฐ จะมีความคุ้มค่ามีกำไรหรือขาดทุนอย่างไรก็อยู่ในความรับผิดชอบของเอกชนอย่างเดียวราชการไม่ต้องมาแบกรับกับเรื่องนี้ หากสามารถเปิดเป็นสนามบินพาณิชย์อีกครั้งได้ก็จะทำให้การเดินทางสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น จะมีผลดีทางด้านการลงทุน การขนส่ง และการท่องเที่ยวสรุปคือ จะทำให้เศรษฐกิจของ จ.อุตรดิตถ์ดีขึ้นกว่าที่ผ่านมา ประชาชนเองก็จะได้รับผลประโยชน์โดยตรงจากการขยายตัวของเมือง จะมีอาคารสถานที่เพิ่มขึ้นตามมาด้วย

แนวคิดเดิมเมื่อ 4 ปีที่แล้ว..ผู้เขียนได้สรุปไว้ คือ

"...แง่คิด...AEC : ใกล้เข้ามามากแล้ว  การขยายตัวของอุตรดิตถ์เชิงเมืองใหม่ทางทิศเหนือมีความเป็นไปได้สูงมาก  ทั้งนี้ต้องมองที่ปัจจัยเสริมโดยพิจารณาจาก

ประการแรก  พื้นที่ทางด้านเหนือของตัวจังหวัดอุตรดิตถ์  ยังมีพื้นที่ที่สามารถพัฒนาให้เป็นเมืองใหม่รองรับการขนส่งสินค้าระหว่างไทย - สปป.ลาว ผ่านด่านถาวรภูดู่  เชื่อมต่อได้ทั้งทางถนน และทางรถไฟ  ซึ่งบังเอิญได้เห็นการขนส่งทางรถไฟที่บรรทุกรถคอนเทนเนอร์ทั้งขบวนในต่างประเทศ  ดูแล้วคิดตามได้ว่า 

1) ลดความคับคั่งของรถบรรทุกบนท้องถนนได้เป็นอย่างดี  เพราะเมื่อลงจากรถไฟก็ขับต่อไปยังปลายทางได้เร็วขึ้นกว่าเดิม  

2) มีความปลอดภัยโดยภาพรวม  

ประการถัดมา  พิจารณาถึงความคุ้มทุน  พบว่า  

1)  ทำเลเมืองใหม่อยู่ใกล้กับเขตเศรษฐกิจพิเศษ อ.บ้านโคก(ในอนาคต) เป็นจุดพักภาคพื้นดินในการขนส่งสินค้าเชิงพาณิชย์ และผู้โดยสารระหว่างไทยกับ สปป.ลาว   

2)  รองรับการท่องเที่ยวได้ทั้งในและต่างประเทศ..."




ขอบคุณ  :  http://pitloknews.com