หนังสือเดินทาง (e-passport) สำหรับนักท่องเที่ยว
หนังสือเดินทาง
หรือที่ภาษาอังกฤษเรียกกันว่า Passport เป็นเอกสารสำคัญสำหรับบุคคลที่จะเดินทางไปต่างประเทศโดยในหนังสือเดินทางจะมีการระบุข้อมูล
อาทิ ชื่อผู้เดินทาง ลายมือชื่อรูปถ่าย อายุ สัญชาติ
ฯลฯเพื่ออำนวยความสะดวกและใช้เป็นหลักฐานในการขอหนังสือลงตราหรือที่เรียกกันว่าวีซ่า
(Visa)
หนังสือเดินทางที่สำคัญมี 4 ประเภท
1. หนังสือเดินทางฑูต เป็นหนังสือเดินทางสำหรับนักการทูต และข้าราชการการเมือง
เพื่อใช้เดินทางไปราชการต่างประเทศเท่านั้น มีสีแดงสด
2. หนังสือเดินทางราชการ เป็นหนังสือเดินทางสำหรับข้าราชการ
สำหรับเดินทางไปราชการนั้น ๆ เป็นเล่มสีน้ำเงิน
3.หนังสือเดินทางชั่วคราว อายุ 1 ปี จะออกให้ในกรณีที่คนไทยทำหนังสือเดินทางสูญหายหรือหมดอายุ และมีความจำเป็นเร่งด่วนจะต้องเดินทางไปต่างประเทศ โดยไม่อาจรอการออกหนังสือเดินทาง E-Passport ได้ อย่างไรก็ดี หนังสือเดินทางชั่วคราวมีข้อจำกัดคือ ไม่มี machine readable bar code ซึ่งหากนำไปขอวีซ่า บางประเทศอาจไม่ยอมรับ เป็นเล่มสีเขียว
4. หนังสือเดินทาง เป็นหนังสือเดินทางสำหรับประชาชนทั่วไป หรือข้าราชการ
และพนักงานของรัฐก็สามารถใช้ในกรณีที่เดินทางไปต่างประเทศด้วยกิจธุระส่วนตัวตัวเล่มจะใช้สีเลือดหมู
ตั้งแต่เดือนสิงหาคม พ.ศ.2548เป็นต้นมา กรมการกงสุล
กระทรวงต่างประเทศได้เปลี่ยนหนังสือเดินทางธรรมดามาเป็น "หนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์" หรือ "E-passport" แล้ว
ซึ่งเป็นหนังสือเดินทางที่มีคุณลักษณะเฉพาะทางเทคนิคตามข้อกำหนดขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ
(ICAO) ซึ่งแตกต่างจากหนังสือเดินทางแบบเดิม
หนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์
(e-passport)
เป็นหนังสือเดินทางที่มีคุณลักษณะเฉพาะทางเทคนิค
ตามข้อกำหนดขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ซึ่งแตกต่างจากหนังสือเดินทางแบบเดิม
ดังนี้
มีการบันทึกข้อมูลชีวภาพ
(biometric data) ได้แก่ รูปใบหน้า และ/หรือ
ลายนิ้วมือ และ/หรือ ม่านตา ไว้ใน Contactless Integrated Circuit ซึ่งฝังอยู่ในเล่มหนังสือเดินทาง มีการเข้ารหัสข้อมูลเพื่อการตรวจสอบความถูกต้องแท้จริงของหนังสือเดินทาง
หนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์ดีกว่าหนังสือเดินทางแบบเดิมอย่างไร
สามารถป้องกันการปลอมแปลงได้สูง
เป็นมาตรการสำคัญในการสกัดกั้นขบวนการก่อการร้ายข้ามชาติ การลักลอบเข้าเมือง ฯลฯ สามารถตรวจสอบเพื่อพิสูจน์ตัวบุคคลได้แม่นยำและรวดเร็ว
อำนวยความสะดวกต่อการเดินทาง การเข้าเมือง และส่งเสริมการท่องเที่ยว
เสริมสร้างภาพลักษณ์ของประเทศ ทำให้หนังสือเดินทางไทยมีความน่าเชื่อถือ
และได้รับการยอมรับในระดับสากลยิ่งขึ้น ส่งผลต่อเนื่องทางบวกด้านเศรษฐกิจการค้า
การลงทุนและการท่องเที่ยวของประเทศ
ขั้นตอนและเอกสารการยื่นขอหนังสือเดินทาง
e-passport
1. รับบัตรคิว
2.
ยื่นบัตรประจำตัวประชาชนที่มีเลข 13
หลัก(หากไม่มีเลข 13 หลัก ต้องนำสำเนาทะเบียนบ้านมาแสดง)
พร้อมเอกสารหลักฐานอื่นๆ ที่จำเป็น อาทิ หากเปลี่ยนชื่อสกุล
ต้องมีหลักฐานการเปลี่ยนชื่อ นามสกุล ทะเบียนสมรส ฯลฯ มาแสดงเพื่อ
* ตรวจสอบข้อมูลข้อมูลชีวภาพ (วัดส่วนสูง
เก็บลายพิมพ์นิ้วมือนิ้วชี้ซ้ายและนิ้วชี้ขวาด้วยเครื่องสแกนเนอร์
และถ่ายรูปใบหน้า )
* แจ้งความประสงค์หากต้องการขอรับเล่มทางไปรษณีย์
3. ชำระค่าธรรมเนียม 1,000 บาท (และค่าส่งไปรษณีย์ 35
บาทหากประสงค์ให้จัดส่งทางไปรษณีย์) รับใบเสร็จรับเงิน และรับใบนัดรับเล่ม
ท่านจะได้รับหนังสือเดินทาง ดังนี้
* หากยื่นที่กรมการกงสุล ผู้ร้องสามารถรับหนังสือเดินทางได้ 2 วันทำการไม่นับวันยื่นคำร้อง หากรับทางไปรษณีย์จะได้รับใน 5 วันทำการ
* หากยื่นที่สำนักงานสาขาในกรุงเทพฯ (ปิ่นเกล้าและบางนา)
ผู้ร้องจะได้รับเล่มภายใน 2
วันทำการไม่นับวันยื่นคำร้อง หากรับทางไปรษณีย์จะได้รับใน 5
วันทำการ
* กรณียื่นคำร้องที่สำนักงานสาขาในต่างจังหวัดและขอให้จัดส่งทางไปรษณีย์ผู้ร้อง
(ในเขตเมือง) จะได้รับหนังสือเดินทางภายใน 5
วันทำการ
* โดยที่กระทรวงฯ
ได้ติดตั้งเครื่องอ่านหนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์จำลองเพื่อผู้ร้องสามารถทดสอบการผ่านเข้า-ออกท่าอากาศยานโดยอัตโนมัติไว้
1 เครื่อง ที่กรมการกงสุล
ดังนั้นจึงแนะนำให้ผู้ขอหนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์มารับเล่มด้วยตนเอง
เพื่อให้ผู้ถือหนังสือเดินทางมีความคุ้นเคยกับการใช้หนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์และระบบตรวจคนเข้าเมืองอัตโนมัติ
* ในกรณีจำเป็น สามารถมอบอำนาจให้ผู้อื่นรับแทนหรือให้จัดส่งทางไปรษณีย์ (EMS)
ตัวอย่างแบบฟอร์มคำร้องขอหนังสือเดินทางไปต่างประเทศ
บุคคลบรรลุนิติภาวะ
เอกสารประกอบการขอหนังสือเดินทางธรรมดาของบุคคลบรรลุนิติภาวะ
บัตรประจำตัวประชาชนที่ยังมีอายุใช้งาน
หรือ บัตรข้าราชการ หรือ บัตรประจำตัวที่ใช้แทนตามกฎกระทรวงมหาดไทยฉบับจริง
(ในกรณีที่เป็นบัตรข้าราชการให้นำสำเนาทะเบียนบ้านมาด้วย)
หากมีรายการแก้ไขชื่อสกุล
หรือวันเดือนปีเกิด ฯลฯ
ซึ่งไม่ตรงกับบัตรประชาชนให้นำหลักฐานการแก้ไขที่เกี่ยวข้องมาแสดงด้วย
ค่าธรรมเนียม
*
การทำหนังสือเดินทางใหม่เสียค่าธรรมเนียม 1,000 บาท
ผู้เยาว์อายุต่ำกว่า
15 ปี
ระเบียบการขอหนังสือเดินทางของผู้เยาว์อายุต่ำกว่า
15 ปี
ผู้เยาว์อายุต่ำกว่า
15 ปี ต้องนำสูติบัตรฉบับจริง
หากเป็นสำเนาต้องได้รับการรับรองสำเนาถูกต้องจาก
อำเภอ/เขตมาแสดงพร้อมผู้มีอำนาจปกครอง หากผู้มีอำนาจปกครองไม่สามารถมาดำเนินการได้
สามารถมอบอำนาจให้ผู้อื่นมาดำเนินการแทนได้โดยต้องมีหนังสือมอบอำนาจและหนังสือยินยอมให้ผู้เยาว์เดินทางไปต่างประเทศพร้อมทั้งบัตรประจำตัวประชาชนของบิดามารดาและ/หรือผู้มีอำนาจปกครองฉบับจริงมาแสดง
ทั้งนี้หนังสือมอบอำนาจและหนังสือยินยอมให้ผู้เยาว์เดินทางไปต่างประเทศต้องผ่านการรับรองจากอำเภอ/เขต
เอกสารประกอบการขอหนังสือเดินทางธรรมดาของผู้เยาว์อายุต่ำกว่า
15 ปี
* สูติบัตรฉบับจริง หากเป็นสำเนาสูติบัตรต้องได้รับการรับรองจากอำเภอ/เขต
* บิดาและมารดา
หรือผู้มีอำนาจปกครองนำบัตรประชาชนฉบับจริงมาลงนามต่อหน้าเจ้าหน้าที่
* บัตรประจำตัวประชาชนที่ยังมีอายุใช้งาน
หรือ บัตรที่ใช้แทนได้ตามกฎกระทรวงมหาดไทย ของบิดา มารดา
หรือผู้มีอำนาจปกครองฉบับจริง หากชื่อนามสกุลบิดา
มารดาในสูติบัตรไม่ตรงกับบัตรประจำตัวประชาชน ให้นำหลักฐานการเปลี่ยนชื่อ หรือ
นามสกุลที่เป็นต้นฉบับมาแสดงด้วย ในกรณีที่มารดาหย่า และจดทะเบียนสมรสใหม่
และใช้นามสกุลใหม่ตามสามีให้นำหลักฐานการหย่าและการสมรสที่เป็นต้นฉบับมาแสดงด้วย
* หนังสือยินยอมให้ผู้เยาว์เดินทางไปต่างประเทศและบัตรประจำตัวประชาชนฉบับจริงของบิดามารดาที่ไม่มา
ในกรณีที่บิดา/มารดาฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดไม่สามารถมาแสดงตัวได้
**หนังสือยินยอมของบิดา/มารดา
ต้องผ่านการรับรองจากอำเภอ/เขต**
(ผู้เยาว์อายุต่ำกว่า 15 ปี ต้องมีบิดาหรือมารดา
คนใดคนหนึ่งมาแสดงตัวให้ความยินยอม)
เอกสารอื่น
ๆ ที่จำเป็น อาทิ หลักฐานใบเปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนนามสกุล เอกสารหลักฐานการรับรอง
บุตรหรือรับบุตรบุญธรรม บันทึกการหย่า ซึ่งมีข้อความระบุให้บุตรอยู่ในความดูแลของบิดา
หรือมารดา เป็นต้น
กรณีบิดา
มารดาผู้เยาว์เสียชีวิต /
บิดาหรือมารดาผู้เยาว์เป็นชาวต่างชาติมิได้จดทะเบียนสมรสและ
ไม่สามารถตามหาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมาให้ความยินยอมได้
/บิดามารดามิได้จดทะเบียนสมรสแต่บุตรอยู่ในความดูแลของบิดาฝ่ายเดียวมาตลอด
และไม่สามารถตามหามารดาได้ ให้นำคำสั่งศาลซึ่งระบุชื่อผู้มีอำนาจปกครอง
พร้อมบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มีอำนาจปกครองมาแสดง
ค่าธรรมเนียม
* การทำหนังสือเดินทางใหม่เสียค่าธรรมเนียม
1,000 บาท
ผู้เยาว์อายุระหว่าง
15
ปีขึ้นไปแต่ยังไม่ครบ 20 ปีบริบูรณ์
ผู้เยาว์ที่มีอายุ
15 ปีขึ้นไปแต่ยังไม่ครบ 20 ปีบริบูรณ์ ที่ทำบัตรประชาชนแล้วสามารถติดต่อขอทำ
หนังสือเดินทางด้วยตนเอง โดยมีหนังสือยินยอมของบิดาและมารดา หรือ
ผู้มีอำนาจปกครองที่ยินยอมให้ผู้เยาว์เดินทางไปต่างประเทศที่ผ่านการรับรองจากอำเภอ/เขตมาแสดงประกอบการยื่นคำร้อง
หากไม่มีหนังสือยินยอม บิดาและมารดาหรือผู้มีอำนาจปกครองผู้เยาว์ต้องมาลงนามต่อหน้าเจ้าหน้าที่ในวันที่ยื่นคำร้อง
(หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมาไม่ได้ ให้มาลงนามในวันรับเล่ม) หรือ มีหนังสือยินยอม
จากฝ่ายที่มาไม่ได้มาแสดง
เอกสารที่นำมายื่นขอหนังสือเดินทางต้องเป็นต้นฉบับหากเป็นสำเนาต้องผ่านการรับรองสำเนาถูกต้อง
จากหน่วยงานที่ออกเอกสารดังกล่าวเท่านั้น
เอกสารการขอหนังสือเดินทางธรรมดาของผู้เยาว์ที่มีอายุ
15 ปีขึ้นไป
แต่ยังไม่ครบ 20 ปีบริบูรณ์
บัตรประจำตัวประชาชนที่ยังมีอายุใช้งาน
หรือ บัตรประจำตัวที่ใช้แทนตามกฎกระทรวง มหาดไทยหนังสือยินยอมให้ผู้เยาว์เดินทางไปต่างประเทศที่ผ่านการรับรองจากอำเภอ/เขต
และบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ปกครอง พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง
เอกสารอื่น
ๆ ที่จำเป็น อาทิ หลักฐานใบเปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนนามสกุล
เอกสารหลักฐานการรับรองบุตรหรือรับบุตรบุญธรรมใบสำคัญการสมรส ทะเบียนสมรส
ทะเบียนหย่า ทะเบียนบ้าน คำสั่งศาลกรณีระบุผู้มีอำนาจปกครองแทนบิดามารดา เป็นต้น
ค่าธรรมเนียม
* การทำหนังสือเดินทางเสียค่าธรรมเนียม
1,000 บาท
ความหมายของผู้มีอำนาจปกครอง
* กรณีบิดาและมารดาจดทะเบียนสมรสบิดาและมารดาต้องมาลงนาม(ต่อหน้าเจ้าหน้าที่)ในคำร้องขอหนังสือเดินทางทั้งสองฝ่ายหากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดไม่สะดวกมาลงนามในวันที่ผู้เยาว์ยื่นคำร้องให้มาลงนามในวันรับเล่มได้
หรือทำหนังสือยินยอมให้ผู้เยาว์เดินทางไปต่างประเทศ ผ่านอำเภอ/เขต พร้อมบัตรประชาชนที่มีอายุใช้งานบิดา
มารดาตัวจริง
* กรณีที่ผู้มีอำนาจปกครองอยู่ในต่างประเทศ
ให้ทำหนังสือยินยอมให้ผู้เยาว์เดินทางไปต่างประเทศ ผ่านสถานเอกอัครราชทูต
หรือสถานกงสุลไทยในประเทศที่พำนักอยู่ หากผู้เยาว์อายุต่ำกว่า 15 ปี และผู้ปกครองไม่สามารถมาดำเนินการด้วยตนเองและประสงค์จะมอบอำนาจให้ผู้อื่นมาดำเนินการแทน
ต้องมีหนังสือมอบอำนาจ และหนังสือยินยอมให้ผู้เยาว์เดินทางไปต่างประเทศ
โดยหนังสือทั้ง 2 ฉบับ ต้องผ่านการรับรองจาก สอท./สกญ.
(สถานทูต/สถานกงสุล) กรณีบิดามารดาหย่าตามกฎหมาย ให้ผู้มีอำนาจปกครองผู้เยาว์ตามที่ระบุในบันทึกการหย่าเป็นผู้ลงนามพร้อมแสดงทะเบียนหย่า
และบันทึกการหย่า
* ผู้เยาว์ที่เกิดจากบิดามารดาไม่ได้จดทะเบียนสมรส
มารดาสามารถลงนามได้ฝ่ายเดียว โดยให้ทำ
บันทึกคำให้การจากอำเภอ/เขตยืนยันว่าไม่ได้จดทะเบียนสมรสพร้อมแสดงหลักฐานบัตรประจำตัวประชาชนที่มีอายุใช้งานเป็น
“นางสาว” ต่อเจ้าหน้าที่รับคำร้อง
* มารดาผู้เยาว์ที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสแต่ใช้คำนำหน้า
“นาง” สามารถลงนามได้ฝ่ายเดียว
โดย นำหนังสือรับรองการอุปการะบุตรแต่เพียงผู้เดียวจากอำเภอ/เขต มาแสดง
* ผู้เยาว์เกิดจากบิดามารดาที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน
มารดาต้องมาลงนามให้ความยินยอม บิดา
ไม่สามารถลงนามยินยอมให้ผู้เยาว์เพียงฝ่ายเดียวได้
เว้นแต่ว่ามีคำสั่งศาลมาแสดงว่าศาลให้บิดาเป็นผู้อุปการะผู้เยาว์แต่ผู้เดียว
* บิดามารดาผู้ให้กำเนิดผู้เยาว์ที่ได้ยกผู้เยาว์ให้เป็นบุตรบุญธรรมของผู้อื่นแล้ว
ไม่สามารถลงนาม แทนบิดามารดาบุญธรรมได้ต้องให้บิดา มารดาบุญธรรมเป็นผู้ลงนาม
* เอกสารที่นำมายื่นขอหนังสือเดินทางต้องเป็นต้นฉบับหากเป็นสำเนาต้องได้รับการรับรองสำเนา
ถูกต้องจากหน่วยงานที่ออกเอกสารดังกล่าวเท่านั้น
ข้อควรปฏิบัติในวันมายื่นคำร้อง
กรณีบิดาและมารดาจดทะเบียนสมรส
บิดาและมารดาต้องมาลงนาม (ต่อหน้าเจ้าหน้าที่)
ในคำร้องขอหนังสือเดินทางทั้งสองฝ่าย หากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดไม่สะดวกมาลงนามในวันที่ผู้เยาว์ยื่นคำร้อง
ให้มาลงนามในวันรับเล่มได้ หรือทำหนังสือยินยอมให้ผู้เยาว์เดินทางไปต่างประเทศ
ผ่านอำเภอ/เขต พร้อมบัตรประชาชนที่มีอายุใช้งานบิดา มารดาตัวจริง
สถานที่ให้บริการหนังสือเดินทาง
กรมการกงสุล
แจ้งวัฒนะ
-
ที่อยู่ 123 ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ
10210
-
โทรศัพท์ 0-2981-7171-99 โทรสาร 0-2981-7256
สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว บางนา
-
ที่อยู่ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลซิตี้บางนา อาคาร
"บางนาฮอลล์"(ด้านข้างศูนย์การค้า) ชั้น B1
-
โทรศัพท์ 0-2383-8402-4 โทรสาร 0-2383-8398
สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว
ปิ่นเกล้า
-
ที่อยู่ อาคารธนาลงกรณ์ทาวเวอร์(ชั้นใต้ดิน) แขวงบางบำหรุ เขตบางพลัด
กทม. 10700
-
โทรศัพท์ 0-2446-8111-2 โทรสาร 0-2446-8124
สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว
จังหวัดขอนแก่น
-
ที่อยู่ ศูนย์ราชการจังหวัดขอนแก่น ถนนศูนย์ราชการ อำเภอเมือง
จังหวัดขอนแก่น 40000
-
โทรศัพท์ 0-4324-2707, 0-4324-3462, 0-4324-2655 โทรสาร 0-4324-3441
สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว
จังหวัดเชียงใหม่
-
ที่อยู่ ศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่ ถนนโชตนา ตำบลช้างเผือก
อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ 50000
-
โทรศัพท์ 0-5389-1535-6 โทรสาร 0-5389-1534
สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว จังหวัดสงขลา
-
ที่อยู่ ศูนย์ราชการจังหวัดสงขลา อำเภอเมือง จ.สงขลา 90000
-
โทรศัพท์ 074-326508-10 โทรสาร 074-326511
สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว
จังหวัดอุบลราชธานี
-
ที่อยู่ อาคารสำนักงานองค์การบริหารส่วนจังหวัด อำเภอเมือง
จังหวัดอุบลราชธานี 34000
-
โทรศัพท์ 045-242313-4 โทรสาร 045-242301
สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว
จังหวัดสุราษฎร์ธานี
-
ที่อยู่ ศาลาประชาคม ถนนหน้าเมือง อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี 84000
-
โทรศัพท์ 077-274940, 077-274942-3 โทรสาร 077-274941
สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว
จังหวัดนครราชสีมา
-
ที่อยู่ ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา ถนนมหาดไทย อำเภอเมือง
จังหวัดนครราชสีมา 30000
-
โทร 044-243-132, 044-243-124 โทรสาร 044-243-133
สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว
จังหวัดอุดรธานี
-
ที่อยู่ ศูนย์อเนกประสงค์ ศาลากลางจังหวัดอุดรธานี
(ตรงข้ามกับศาลหลักเมือง) ถนนอธิบดี อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี 41000
-
โทร 042-212827, 042-212-318 โทรสาร 042-222-810
สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว
จังหวัดพิษณุโลก
-
ที่อยู่ ศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก ถนนเทพารักษ์ อำเภอเมือง
จังหวัดพิษณุโลก 65000
-
โทร 055-258-173, 055-258-155, 055-258-131, โทรสาร
055-258-117
สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว
จังหวัดยะลา
-
ที่อยู่ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.)
ถนนสุขยางค์ อำเภอเมือง จังหวัดยะลา 95000
-
หมายเลขโทรศัพท์ 073-274-526, 073-274-036, 073-274-037 โทรสาร 073-274-527
สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว ภูเก็ต
-
ที่อยู่ ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต ถนนนริศร อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต 83000
-
หมายเลขโทรศัพท์ 076-222-083, 076-222-080, 076-222-081 โทรสาร 076-222-082
สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว
นครสวรรค์
-
ที่อยู่ ศูนย์บริการร่วมจังหวัดนครสวรรค์ ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี
ถนนพหลโยธิน อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ 60000
-
หมายเลขโทรศัพท์ 056-233-453, 056-233-454
โทรสาร 056-233-452
สถานที่ยื่นทำหนังสือเดินทาง
|
การรับเล่ม
|
1. กรมการกงสุล
2. สำนักงานหนังสือเดินทางในกรุงเทพฯ
-
ปิ่นเกล้า
- บางนา
-
ศูนย์บริการการไปทำงานต่างประเทศ
|
- รับด้วยตนเอง
เอกสารใช้
1) บัตรประชาชนตัวจริงของผู้รับ
2) ใบรับหนังสือเดินทาง
|
หรือ
- ให้ผู้อื่นรับแทนเอกสารใช้
1) บัตรประชาชนตัวจริงของผู้ถือ
หนังสือเดินทาง
2) บัตรประชาชนตัวจริงของ
ผู้รับแทน
3) ใบรับหนังสือเดินทาง
|
|
หรือ
- รับทางไปรษณีย์
|
|
3. สำนักงานหนังสือเดินทางในต่างจังหวัด
- ขอนแก่น
- เชียงใหม่
- สงขลา
- อุบลราชธานี
- สุราษฎร์ธานี
- นครราชสีมา
- ยะลา
|
- รับทางไปรษณีย์เพียงทางเดียว
5-7 วันทำการ
(ไม่รวมวันเสาร์-อาทิตย์)
(ผลิตเล่มที่กรมการกงสุล)
|
4. หน่วยหนังสือเดินทางเคลื่อนที่ในจังหวัดต่าง ๆ
|
- รับทางไปรษณีย์เพียงทางเดียว
7-10 วันทำการ
(ไม่รวมวันเสาร์-อาทิตย์)
(ผลิตเล่มที่กรมการกงสุล)
|
ผู้สนใจขอรับรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02
981-7257 ถึง 60 ในวันและเวลาราชการ
การแก้ไขหนังสือเดินทาง
หนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์ไม่สามารถแก้ไขเปลี่ยนแปลงชื่อ-นามสกุล
หรือข้อมูลบุคคลได้
ทั้งนี้เนื่องจากตามข้อกำหนดขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) การเขียนข้อมูลในไมโครชิพทำได้เพียงครั้งเดียว
และไม่สามารถนำข้อมูลที่แก้ไขเขียนเพิ่มใน ไมโครชิพ อย่างไรก็ดี หากเป็นการเปลี่ยนแปลงข้อมูลที่ไม่ได้จัดเก็บในไมโครชิพสามารถบันทึกการแก้ไขในเล่มได้
2 กรณี ได้แก่
1. การเปลี่ยนแปลงลายเซ็น
และ
2. การบันทึกรับรองการถือหนังสือเดินทางเล่มเดิมเนื่องจากเล่มเดิมมีวีซ่าที่ยังมีอายุใช้งานแทนการผนวกเล่ม
ค่าธรรมเนียม
ค่าธรรมเนียมรายการละ 100
บาท
การแก้ไขข้อมูลหนังสือเดินทางและนิติกรที่เกี่ยวข้องกับหนังสือเดินทาง
ประเภทนิติกรและการแก้ไข
|
ประเภทหนังสือเดินทาง
|
เอกสารประกอบ
|
|
แบบเก่า
|
e-passport
(เริ่มผลิต ส.ค. 2548)
|
||
1.การต่ออายุหนังสือเดินทาง
|
ทำไม่ได้
|
ทำไม่ได้
|
ไม่มี
|
2. การเพิ่มหน้า
(หมายเหตุ:
สถานเอกอัครราชทูตหลายประเทศไม่ประทับตรา visa ในใบเพิ่มหน้า)
|
ทำได้
|
ทำไม่ได้
|
1) หนังสือเดินทางเล่มเดิม
พร้อมสำเนาหน้าที่มีรูปถ่าย และหน้าที่เคยมีการต่ออายุ/แก้ไข(ถ้ามี)
2) บัตรประชาชน หรือสูติบัตร ของผู้ร้องพร้อมสำเนา
|
3. การขอแก้ไข
ชื่อ/นามสกุล/คำนำหน้า(หมายเหตุ: ผู้ร้องต้องมาเซ็น ชื่อต่อหน้าเจ้าหน้าที่)
|
ทำได้
|
ทำไม่ได้
|
1) หนังสือเดินทางเล่มเดิม
พร้อมสำเนา
2) ใบรับรองการเปลี่ยนชื่อ/นามสกุล/คำนำหน้า
หรือทะเบียนสมรส(แล้วแต่กรณี)พร้อมสำเนา
หากเป็นกรณีหญิงไทยสมรสกับชาวต่างชาติ จะต้องแนบสำเนาหนังสือเดินทางของคู่สมรสที่เป็นชาวต่างชาติมาด้วย
3) บัตรประชาชน หรือสูติบัตร
พร้อมสำเนา
4) ทะเบียนบ้าน พร้อมสำเนา
(กรณีใช้บัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ และกรณีผู้เยาว์ที่ยังไม่มีบัตรประชาชน)
|
4. การเปลี่ยนแปลงลายเซ็น
(หมายเหตุ:
ผู้ร้องต้องมาเซ็นชื่อต่อหน้าเจ้าหน้าที่)
|
ทำได้
|
ทำได้
|
1) หนังสือเดินทางเล่มที่ต้องการแก้ไข
พร้อมสำเนาหน้าที่มีรูปถ่าย และหน้าที่เคยมีการต่ออายุ/แก้ไข(ถ้ามี)
2) บัตรประชาชน หรือสูติบัตร
พร้อมสำเนา
|
5. การรับรองการถือหนังสือเดินทางเล่มเดิมในหนังสือเดินทางเล่มใหม่เนื่องจากเล่มเดิมมีวีซ่าที่ยังมีอายุใช้งานแทนการผนวกเล่ม
|
ทำได้
|
ทำได้
|
1) หนังสือเดินทางเล่มใหม่
2) หนังสือเดินทางเล่มเดิมที่วีซ่ายังมีอายุใช้งานอยู่
พร้อมสำเนาหน้าที่มีรูปถ่าย และหน้าที่มีวีซ่าที่ยังมีอายุใช้งาน(ถ้ามี)
และหน้าที่เคยมีการต่ออายุ/แก้ไข(ถ้ามี)
3) ใบเปลี่ยนชื่อ นามสกุล
หรือทะเบียนสมรส พร้อมสำเนา(กรณีหนังสือเดินทางทั้งสองเล่มมีชื่อ นามสกุล ไม่ตรงกัน)
4) บัตรประชาชน หรือสูติบัตร
พร้อมสำเนา
|
การยกเลิกหนังสือเดินทาง
กองหนังสือเดินทางจะยกเลิกหนังสือเดินทางฉบับเก่าเมื่อผู้ขอได้รับหนังสือเดินทางฉบับใหม่แล้วจึงขอให้นำหนังสือเดินทางเล่มเก่าที่ยังมีอายุใช้งานมายกเลิกเล่มในวันที่ยื่นขอเล่มใหม่
หรือในวันที่รับเล่มใหม่ ในกรณีขอรับเล่มทางไปรษณีย์
และยื่นคำร้องที่สำนักงานสาขาในต่างจังหวัด
ขอให้นำเล่มเดิมมายกเลิกในวันที่ยื่นคำร้องด้วย
หนังสือเดินทางที่ประทับตรายกเลิกเล่มแล้ว จะคืนผู้ร้องเก็บไว้เป็นหลักฐานต่อไป
การทำลายหนังสือเดินทาง
หากผู้ยื่นขอหนังสือเดินทางไม่มารับเล่มตามกำหนดภายใน
90 วัน
กองหนังสือเดินทางขอสงวนสิทธิ์ในการทำลายหนังสือเดินทางนั้น
คำแนะนำในการใช้หนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์
1. ห้ามขีด เขียน แก้ไข
หรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลภายในเล่มหนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์
2. ห้ามแกะ ตัด เย็บ เจาะรู
หรือกระทำใด ๆ ที่อาจทำให้ปกหนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์ได้รับความเสียหาย
3. ห้ามตัด งอ บิด หรือกระทำใด
ๆ ที่อาจทำให้หนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์ยับย่น หรือ เปลี่ยนรูปไปจากเดิม
4. ไม่ควรเก็บหนังสือเดินทางไว้ในบริเวณที่มีสนามแม่เหล็ก
หรือสนามไฟฟ้าสูง และบริเวณที่มีคลื่นความถี่วิทยุ เช่น โทรศัพท์มือถือ โทรทัศน์
หรือไมโครเวฟ
5. หลีกเลี่ยงการวางวัตถุสิ่งของที่มีน้ำหนักมากบนหนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์
6. ควรเก็บหนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์ไว้ในห้องที่แห้ง
อากาศเย็น ไม่อับชื้น
7. หลีกเลี่ยงการนำหนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์เข้าใกล้วัตถุที่มีความร้อนซึ่งมีอุณหภูมิสูงกว่า
50 องศาเซลเซียส สถานที่มีแสงแดดส่องถึงได้เป็นเวลานาน
สถานที่ที่มีสภาพแวดล้อมที่เปียกแฉะ สัมผัสน้ำ หรือสถานที่ใกล้สารเคมีต่าง ๆ
รวมทั้งสถานที่ที่มีฝุ่นละออง
8. กระทรวงต่างประเทศจะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นกับหนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์
อันเนื่องจากสาเหตุต่าง ๆ ดังกล่าวข้างต้น
หากทำหนังสือเดินทางสูญหาย
ต้องทำอย่างไร
* สูญหายในประเทศ
ต้องติดต่อแจ้งความต่อเจ้าพนักงานตำรวจและรับแจ้งความจากเจ้าพนักงาน
ตำรวจมายื่นขอทำหนังสือเดินทางฉบับใหม่และยกเลิกการใช้งานหนังสือเดินทางฉบับที่สูญหาย
* สูญหายในต่างประเทศ
ต้องแจ้งความหนังสือเดินทางสูญหายต่อทางการท้องถิ่น
และนำใบรับแจ้งความดังกล่าวนั้นพร้อมเอกสารแสดงการมีสัญชาติไทยของตนหรือเอกสารทะเบียนราษฎรที่มีอยู่
เช่น บัตรประจำตัวประชาชน ทะเบียนบ้าน ฯลฯ ไปติดต่อที่สถานทูต
สถานกงสุลไทยที่ใกล้ที่สุด เพื่อขอหนังสือเดินทางเล่มใหม่
หากในกรณีที่ผู้ทำหนังสือเดินทางสูญหายต้องการเดินทางกลับประเทศไทยเป็นการเร่งด่วน
ไม่สามารถรอรับหนังสือเดินทางได้ สถานทูตสถานกงสุลจะออกเอกสารเดินทาง(Certificate
of Identity) ให้ใช้เดินทางกลับประเทศไทยได้ครั้งเดียว
เมื่อกลับถึงประเทศไทยแล้วเอกสารเดินทางจะหมดอายุการใช้งาน
ข้อแนะนำ
ก่อนเดินทางออกนอกประเทศควรถ่ายเอกสารหนังสือเดินทางหน้าที่มีรูปถ่ายและข้อมูลส่วนบุคคล
และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนที่ยังมีอายุอยู่เก็บไว้แยกกัน
อีกทั้งควรมีที่อยู่และหมายเลขโทรศัพท์ของสถานทูตสถานกงสุลไทย
ในประเทศที่จะเดินทางไปถึง หรือเดินทางผ่าน
ขอบคุณ : 1) http://www.louangprabang.net
2) http://travel.kapook.com
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น