ตำหรับยาอายุวัฒนะ “กล้วยน้ำว้าดองน้ำผึ้ง”


ในห้วงเวลาปัจจุบัน เรื่องของสุขภาพอนามัย ถือเป็นเรื่องที่ทุกคนต่างก็ให้ความสนใจ และอยากมีสุขภาพส่วนตนที่แข็งแรงปราศจากโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ กันแทบทุกคน  และยิ่งได้รู้จักวิธีการดูแลรักษาที่แสนจะง่ายดาย ประหยัดค่าใช้จ่าย บวกกับคำยืนยันจากผู้มีประสบการณ์ตรงด้วยแล้ว  มันก็ยิ่งทำให้มีผู้คนอีกจำนวนมากปรารถนาที่จะเป็นอีกผู้หนึ่งที่มีสุขภาพที่ดีตลอดไป และเพื่อเป็นทางเลือกที่เหมาะสม  จึงได้นำ 2 ตำหรับยาอายุวัฒนะ “กล้วยน้ำว้าดองน้ำผึ้ง”  ที่มีรายละเอียดใกล้เคียงกัน อาจต่างกันบ้างตรงเคล็ดลับเล็ก ๆ น้อย ๆ มาเล่าสู่กันอีก

A : ตำหรับยาอายุวัฒนะ>>กล้วยน้ำว้าดองน้ำผึ้ง : ของคุณ Aukrit  Phetjan

เราๆๆท่านๆๆคงทราบกันดีแล้วว่า กล้วยน้ำว้า เป็นผลไม้คู่บ้านของคนไทยมาแต่โบราณ  ในสมัยโบราณ เด็กไทยส่วนใหญ่เติบโตมาจากการกินกล้วยน้ำว้าโดยพ่อแม่จะบดผลกล้วยน้ำว้าสุก  ป้อนให้ลูกเล็ก กินแทนข้าว  กล้วยน้ำว้า หนึ่งผล สามารถให้พลังงานได้ ประมาณ 100 แคลอรี่  มีน้ำตาลธรรมชาติ อยู่ 3 ชนิด คือ ซูโครส  ฟรุคโทสและกลูโครส  มีเส้นใยและกากอาหาร  ในกล้วยน้ำว้ายังอุดมไปด้วยวิตามินบี6   ที่ช่วยกระตุ้นระบบภูมิต้านทาน  วิตามินบี1 บี2 และไนอะซีน  อีกทั้งมีเกลือแร่แมกนีเซียมและโพแทสเซียม   

กล้วยน้ำว้ายังมีคุณค่าสารอาหารที่พิเศษกว่ากล้วยชนิดอื่น  นั่นคือ ในกล้วยน้ำว้าหนึ่งผล มีโปรตีน มีกรดอะมิโน  อาร์จินินและอิสติดิน  ซึ่งมีความจำเป็นต่อการเจริญเติบโตของทารก  ด้วยเหตุนี้ จึงถือว่าเป็นภูมิปัญญาเก่าแก่จากปู่ย่าตายาย ที่พ่อ แม่ ท่านให้เรากินกล้วยน้ำว้าบด   ก็เพราะอุดมไปด้วยสารอาหารและวิตามินที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของร่างกายนี่เอง อันเป็นภูมิปัญญาของคนไทยโดยแท้  
นอกจากนี้ กล้วยน้ำว้า ยังมีสรรพคุณในทางยาอีกด้วย  เช่น ช่วยระงับกลิ่นปาก > เป็นยาระบาย ช่วยแก้ท้องผูก หรือระบบขับถ่ายไม่ปกติที่สาวๆๆรุ่นใหม่ประสบกันเยอะมากในปัจจุบัน จนต้องพึ่งพายาระบายที่เป็นสารเคมีและมีราคาแพงแถมมีผลข้างเคียงอีกต่างหาก  > ช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอหรืออาการเจ็บหน้าอกจากการไอแห้งๆ   > สามารถรักษาโรคกระเพาะหรือว่าอาการเกี่ยวกับทางเดินอาหารได้ดี  โดยการนำกล้วยน้ำว้าดิบมาปอกเปลือก แล้วนำเนื้อมาฝานเป็นแผ่นบางๆ ผึ่งแดด(กลับด้าน) ประมาณ 2 วัน  จนแห้งกรอบบดเป็นผงให้ละเอียด  ละลายกับน้ำผึ้งปั้นเป็นก้อนกลมๆ ทานก่อนอาหารครึ่งชั่วโมง หรือก่อนนอน ครั้งละ 1-2 ช้อนโต๊ะ  > เปลือกกล้วยน้ำว้าสุกด้านในนั้นช่วยบรรเทาอาการคันอันเนื่องมาจาก แมลงกัด ต่อย และผื่นแดงจากอาการคัน  ทั้งมีฤทธิ์ระงับการเกิดเชื้อราและเชื้อแบคทีเรียต่างๆ   ที่ทำให้เกิดการอักเสบได้เป็นหนองได้เป็นอย่างดีและที่สำคัญมากๆ  ทราบกันไหมว่า กล้วยน้ำว้า ยังมีสรรพคุณเป็นยาอายุวัฒนะที่ดีอีกด้วย  วันนี้ก็เลยนำเอาตำรับยาอายุวัฒนะกล้วยดองน้ำผึ้งมาฝากกันครับ 


ขอบคุณ คุณบรรยงด้วยนะครับสำหรับขวดโหลและน้ำผึ้งนะครับ เป็นการบังคับให้ทำให้กันด้วยแบบ กลายๆๆ 55


ขั้นตอนและวิธีการทำ 

สิ่งทีต้องมีน้อยนิดเดียว  ก็คือกล้วยน้ำว้าสุกงอมแต่ว่าไม่ถึงกับดำขึ้นรา   โดยเอากล้วยน้ำว้ามาล้างน้ำทั้งหวีให้สะอาดด้วยน้ำเปล่า   เป็นการขจัดฝุ่นผงออกไปก่อน แล้วนำมาปอกเปลือกออกแล้วหั่นเป็นชิ้นบางๆ   หั่นให้ได้แปดชิ้นต่อผล   โดยในสูตรนี้ปริมาณ 12-15  ผล ต่อน้ำผึ้ง 1 ขวด (750 ซีซี)  ส่วนน้ำผึ้งนั้นก็เลือกหากันตามสะดวก   มีจำหน่ายหลากหลาย  ตามซูเปอร์มาร์เก็ต  ตัวผมใช้น้ำผึ้งของโครงการหลวงหรือว่าดอยคำครับ เพราะว่าค่อนข้างมั่นใจและราคาพอสมควรไม่แพงนัก   ต่อมาก็มีขวดโหลแก้วชนิดมีฝาปิด  และถ้ายิ่งเป็นโหลแก้ว ที่มีซีสยางด้านในและมีรูระบายอากาศใต้ฝาด้วยก็น่าจะเหมาะสำหรับการนี้  เพราะช่วยให้ก๊าซระบายได้โดยไม่ต้องเปิดฝาให้ปนเปื้อน

เมื่อหั่นกล้วยเป็นแปดชิ้นต่อผลแล้ว  นำไปใส่ในขวดแล้วเติมน้ำผึ้ง  พยายามเทให้ทั่วๆๆ โดนกล้วยทุกชิ้น   ต้องกะว่าส่วนผสมที่เติมทั้งหมดนั้นต้องไม่เต็มโหลที่ทำนะครับ อย่าใส่ให้เต็มโหล ต้องเว้นที่ด้านบนไว้อย่างน้อยสามหรือว่าสีนิ้วครับ ไม่งั้นอาจจะมีการล้นออกมานอกโหลได้  และไม่สะดวกในการแกว่งขวดให้กล้วยกับน้ำผึ้งผสมกันด้วย   ทิ้งไว้อย่างนี้หนึ่งคืน   พอตอนเช้าให้แกว่งขวดให้น้ำผึ้งและกล้วยเคล้ากันดี   จะเริ่มเห็นว่าน้ำผึ้งเริ่มเหลวและแยกชั้นกันเล็กน้อย  เพราะว่าน้ำผึ้งจะดึงของเหลวในกล้วยออกมา ช่วงสองสามอาทิตย์แรกควรทำการแกว่งทุกวัน  เพื่อป้องกันราเข้ายึดกล้วยที่ลอยด้านบน   ผ่านไปสองอาทิตย์กล้วยก็จะจมหมด  บางท่านทำอาจจะจมเร็วกว่านี้ก็ได้   เนืองจากน้ำผึ้งที่เป็นน้ำผึ้งเก่าจะมีความชื้นต่ำ  การทำยาอายุวัฒนะนี้ต้องใช้เวลาการทำ และเก็บไว้ 3 เดือน  จึงจะครบขั้นตอนแล้วสามารถใช้ได้


 รูปภาพของ Supakron Pattharapanich รูปภาพของ Sitt Chaipinyo


การนำมาใช้ดื่ม

เมื่อครบ 3 เดือนแล้ว จึงนำมาดื่ม   โดยไม่ต้องคั้นน้ำ   น้ำผึ้งจะใสมีรสเปรี้ยวนิดๆ โดยให้กินก่อนนอน คืนละครึ่ง - หนึ่งแก้วเป๊ก   โดยให้เริ่มที่ครึ่งแก้วก่อนแล้วค่อยๆเพิ่มปริมาณ  หากรับประทานมากเกินไปร่างกายจะร้อน   ต้องใจเย็นให้ร่างกายมีการปรับตัวก่อน   เมื่อดื่มไปได้ 10-15 วัน  จะรู้สึกว่าร่างกายอบอุ่น  สดชื่นกระชุ่มกระชวยสดใสแข็งแรงขึ้น ทำงานได้ไม่ค่อยเพลียง่ายเช่นแต่ก่อน  
ตำรับยาอายุวัฒนะของไทยเรานี้  เน้นบำรุงสุขภาพร่างกาย  ปรับธาตุ และสมดุลต่าง ๆ ในร่างกายให้ดีขึ้น   หลายท่านทำไว้ใช้แล้ว ดีต่อสุขภาพมาก รวมถึงท่านชายทั้งหลายที่ไม่ค่อยจะสมชายชาตรี อ่อนล้าอ่อนแรง เหนื่อยง่าย ไร้กำลัง เมื่อได้นำมาดื่มเป็นเวลาครบหกเดือนขึ้นไปแล้ว   คุณจะเห็นผลเอง   แต่ต้องบอกกันไว้ด้วยนะว่า  เมื่อแข็งแรงดีแล้วต้องไม่ไปเกเรนอกบ้าน   ที่นำมาเสนอนี้เพื่อสุขภาพที่แข็งแรง รักใคร่กลมเกลียวกันดีในครอบครัวเป็นหลักนะครับ


B : ตำหรับยาอายุวัฒนะ>>กล้วยน้ำว้าดองน้ำผึ้ง : ของ http://www.baanmaha.com

เอากล้วยน้ำว้าชนิดงอมจัดๆ  คือ เปลือกกล้วยเริ่มมีจุดดำบ้างแล้ว มาปอกเปลือกออกแล้วหั่นเป็นชิ้นบางๆ ดุจหั่นแตงกวา  ปริมาณ 10 ผล  ต่อน้ำผึ้ง 1 ขวดกลม (750 มล.) จะดองครั้งละกี่ขวดก็ได้ตามส่วนที่กำหนด   ส่วนน้ำผึ้งนั้น ไม่จำเป็นจะต้องเป็นน้ำผึ้งแท้ 100 เปอร์เซ็นต์ ด้วยคงหายาก (ซื้อที่เค้าขายตามซูเปอร์มาร์เก็ต ก็น่าจะใช้ได้)




นำส่วนผสมมาใส่ขวดโหลดองเอาไว้ อย่าใส่ให้เต็มโหล ประเดี๋ยวจะฟูและล้นมานอกโหล  ต้องดองให้ครบ 3 เดือน จึงจะใช้ได้  ระหว่าง 3 สัปดาห์แรก กล้วยจะลอยอยู่ข้างบนและจะมีรา  ให้ใช้ไม้ตะเกียบคนให้กล้วยข้างบนจมลงไปอยู่ด้านล่าง  ต่อไปก็จะมีราขึ้นอีก หมั่นคนจนไม่มีราเกิดขึ้น  เมื่อครบ 3 เดือนแล้ว จงเอาผ้าบางมากรองโดยไม่ต้องคั้น  น้ำจะใส มีรสเปรี้ยวนิดๆ  เอากากกล้วยทิ้งไป กินแต่เฉพาะส่วนที่เป็นน้ำ


กินคืนละ 1 ถ้วยชาจีน หรือประมาณ 4 ช้อนคาว กินทุกคืนก่อนนอน   ถ้ารับประทานมากเกินไปจะร้อนจนทนไม่ไหว  เมื่อกินไปได้ 15 วัน ท่านจะรู้สึกตัวทันทีว่า ร่างกายอบอุ่นและกระชุ่มกระชวยผิดธรรมดา  เมื่อข้าพเจ้าได้อ่านหนังสือ “รีดเดอร์ไดเจสต์” ของต่างประเทศ  เขาก็มีอยู่บทหนึ่งที่กล่าวว่า  เมื่อเชื้อเห็ดราของผลไม้ผสมกับน้ำผึ้งแล้ว จะทำให้เกิดปฏิกิริยา คือสามารถสร้างฮอร์โมนในร่างกายของคนเราได้  คือต้องการเชื้อเห็ดราของกล้วยนั่นเอง   มาตรงกับยาอายุวัฒนะของไทยเรา  เมื่อท่านลองแล้วท่านจะเห็นผลเอง  ยาขนานนี้ไม่แต่เป็นยาอายุวัฒนะเพียงอย่างเดียว ยังเป็นยาเตะปี๊บพังด้วย  สมดังคำพังเพยของไทยเรากล่าวว่า  “ตากแดดตากลม เพราะอ้ายนมสองเต้า  ลำบากยากเข็ญ  เพราะเอ็นอันเดียว” ก็คงเป็นจริงอยู่




ขอบคุณ  :  1)  https://th-th.facebook.com/กล้วยน้ำว้าดองน้ำผึ้ง...
                2)  http://www.baanmaha.com               

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

หลวงพ่อฮวบ วัดสามัคยาราม ต.บ้านด่าน อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์

หลวงพ่อกล่อม พรมสโร วัดป่ากะพี้ อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์

พระครูธรรมฐิติวงศ์คีรีเขตร (บุญใหญ่ อินทปญโญ) วัดเจดีย์คีรีวิหาร อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์