การเพาะเมล็ดไม้ยางนาทำได้ไม่ยากหากรู้จริง
ผู้เขียนได้เคยนำเสนอเรื่อง " ปลูกไม้ยางนาเพื่อการอนุรักษ์ " ไปแล้วครั้งหนึ่งเมื่อ 11 กรกฎาคม 2556 ซึ่งก็ได้รับความสนใจจากผู้ชี่นชอบต้นไม้ โดยเฉพาะไม้ยางนามากพอสมควรด้วยกัน มาวันนี้มีข้อมูลใหม่จากผู้มากประสบการณ์ต่อการเพาะเมล็ดไม้ยางนา และผนวกกับประสบการณ์ตรงของผู้เขียนเองมาเล่าสู่กัน....เพื่อเพิ่มทางเลือกที่ดีที่สุดแก่ทุกคนที่สนใจ
ช่วงแรก จะเป็นข้อมูลของ คุณ DETUDOM FC จาก http://www.bloggang.com
ผลยางนาที่ดี และมีเปอร์เซ็นการงอกสูงต้องเก็บมาขณะที่ยังสด ร่วงใหม่ ๆ
เมื่อผ่าเมล็ดออกมาจะมีสีขาว เมล็ดมีความชื้นจับดูรู้สึกได้
เพาะโดยใช้แปลงดิน ตัดใบทิ้งวางเมล็ดตามแนวนอน บางท่านใช้วิธีเสียบหัวลงไม่ตัดปีก
(การตัดปีกทำให้เมล็ดสูญเสียความชืน เพราะปีกเป็นที่เก็บความชื้นหล่อเลีย้งเมล็ด)
ปิดทับด้วยฟางข้าว รดน้ำ 2-3 ครั้ง/วัน 7-10 วันจึงจะเริ่มเห็นรากโผล่
ข้อเสียวิธีนี้คือ ต้องรอให้ใบโผล่ ซึ่งนานมาก เมื่อย้ายกล้าก็กระทบกระเทือนราก
ข้อเสียวิธีนี้คือ ต้องรอให้ใบโผล่ ซึ่งนานมาก เมื่อย้ายกล้าก็กระทบกระเทือนราก
และบางแห่งมีปลวกมาก....เมื่อดินชื้น ปลวกมากัดกินเมล็ด
อีกวิธีหนึ่งคือ การเพาะยางนาในบ่อซีเมนต์ ( 1 กก.มีเมล็ดยางนา 250 เมล็ด ตัดปีก )
ยางนาที่ได้ นำมาแช่น้ำ 2-3 ชม. บางท่านบอก 1 คืน... เพื่อให้เปลือกดูดน้ำเป็นการเพิ่มความชื้นให้กับเมล็ดยางนา
บ่อซีเมนต์ (บ่อควรมีท่อระบายน้ำ)
ปูพื้นด้วยฟางข้าวให้หนาพอประมาณ
นำเมล็ดยางนามาวางบนฟางข้าว กระจายให้ทั่่วๆ ซ้อนทับกันก็ไม่เป็นไร
ปิดทับด้วยฟางข้าวอีก รดน้ำให้เปียก วันละ 2 ครั้ง
เมล็ดยางนาที่เพาะก่อนๆโดยเพาะลงแปลงดิน ผ่านมา 5 วันยังไม่งอก
หลังจากเพาะในบ่อได้ 7-10 วัน เมล็ดยางนาจะเริ่มแทงรากออกมา
ย้ายลงถุงดำขนาด 5x10 ระมัดระวังรากที่งอกออกมาเป็นพิเศษ
*** ข้อควรระวัง เมล็ดยางนา อย่ารอให้รากยาวมาก จะทำการย้ายลงถุงลำบาก และ อย่าให้เมล็ดที่มีราก โดนแดด และควรหาวัสดุคลุมเมล็ดไว้ด้วย เพื่อรักษาความชื้น เพราะรากยางนาเหี่ยวเร็วมาก ประมาณ 1 ชม.จะเหี่ยว ควรระวังตรงนี้ ****
ช่วงที่สอง เป็นประสบการณ์ตรงของผู้เขียน
เดือนเมษายน 2556 ได้ไปร่วมงานอุปสมบท ณ วัดแห่งหนึ่ง ระหว่างที่รอพิธีการต่าง ๆ ได้เดินเที่ยวชมไปรอบ ๆ วัด และพบว่ามีต้นยางนาขนาดใหญ่อยู่ 4 ต้นกำลังมีผล(ลูกยาง)ร่วงอยู่โดยรอบ จึงกำหนดไว้ในใจว่าถ้าแห่นาครอบโบสถ์ และนาคเข้าโบสถ์เรียบร้อยแล้ว จะต้องกลับไปเก็บผล(ลูกยาง)กลับบ้านให้ได้ ซึ่งก็ไม่พลาดตามที่วางแผนไว้ เก็บผล(ลูกยาง)ได้ประมาณ 20 กว่าผล ถึงบ้านรีบตัดปีกและแช่น้ำ 1 คืน วันรุ่งขึ้นได้นำผลที่แช่น้ำไว้ปักลงถุงดำ+รดน้ำ
ผ่านไปประมาณ 10 กว่าวัน สังเกตเห็นว่ามีการงอกเกิดขึ้นนับลได้ 10 ถุง บอกตรง ๆ ว่าภูมิใจมากที่เราก็ทำได้ จำได้ว่าผลยางที่เก็บมามีทั้งที่ยังสด(หัวเขียว) และแห้ง(หัวน้ำตาล) สรุปได้ชัดเจนว่าต้องเลือกผลยางที่ยังสดและร่วงใหม่ ๆ จริง ๆ จึงจะมีเปอร์เซ็นการงอกสูง
ผล/เมล็ดยาง 10 ถุง ที่กำลังงอก....26/4/56
ยอดอ่อนกำลังแตกออกมาให้เห็น 29/4/56
ใบอ่อน 2 ใบแรกของยางนา 6/5/56
จากใบอ่อนคู่แรกของยางนา...สู่ใบอ่อนคูใหม่ 11/5/56
ปัจจุบันกล้ายางที่เพาะไว้ยังเจริญงอกงามไปตามปกติเพียง 5 ต้น ความสูงประมาณ 2 ฟุตกว่า ๆ ฝนนี้คงจะนำไปปลูกที่สวนเพิ่มเติมจากที่มีอยู่แล้ว 4 ต้น
ต้นยางนา 2 ใน 4 ต้น อายุ 2 ปี ที่ปลูกร่วมกับไม้สัก
ในสังกัดผมจะมี 8 ชนิดได้แก่ พลวง เหียง กราด ยางนา ตะเคียน เต็ง รัง พะยอม ขอแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่งอกเร็ว และที่งอกช้า ก่อนจะนำไปเพาะให้ตัดปีกออก ระวังอย่าให้โดนส่วนที่เป็น จุกของเมล็ดเพราะรากจะงอกออกมาจากตรงนั้น ครับ
1. พวกงอกเร็ว มี 3 ชนิดคือ เหียง เต็ง รัง ตะเคียนทอง พวกนี้งอกเร็วมาก 1-3 วันหลังจากร่วงก็จะงอกแล้ว ครับ ผมจะนำใส่กระสอบ 2 วันเปิดดู แล้วนำต้นที่รากงอกแล้วมาจิ้มลงถุงที่มีวัสดุตามแบบของขุนดง (ดิน/แกลบดำ/ปุ๋ยคอก) 20/20/1 แล้วก็เปิดดูทุกวัน จนมั่นใจว่าไม่มีเมล็ดไหนงอกแล้ว
2. พวกที่งอกช้า ใช้เวลา 20-45 วันแล้วแต่ชนิด ได้แก่ ยางนา พลวง พะยอม กราด ผมจะนำใส่กระสอบ แล้วรดน้ำทุกวัน เมื่อผ่านไป 15 วันก็เริ่มเปิดดู แล้วทำต่อเหมือนกลุ่มที่ 1 แต่กลุ่มนี้ไม่ต้องเปิดทุกวัน ให้เปิด ทุก 4-5 วันก็ได้ จนกว่าจะมั่นใจว่าไม่มีเมล็ดไหนงอกอีกแล้ว
* ตอนจิ้มลงถุงให้จิ้มลงเฉพาะส่วนรากนะครับ โดยให้เมล็ดนอนอยู่บนดินในถุง
** จากนั้นก็นำต้นกล้าเข้าเรือนเพาะชำที่แดด 50 % พรมน้ำไปเรื่อยๆ ต้นอ่อนก็จะงอกขึ้นมาจากกลางรากที่แทงลงดิน
ช่วงที่สาม : เทคนิคเพิ่มเติม
จาก http://www.khundong.com/forums/index.php? topic=183.0
การเพาะเมล็ดไม้วงศ์ยางนา พะยอม ยางนา ตะเคียน พลวงฯลฯ
1. พวกงอกเร็ว มี 3 ชนิดคือ เหียง เต็ง รัง ตะเคียนทอง พวกนี้งอกเร็วมาก 1-3 วันหลังจากร่วงก็จะงอกแล้ว ครับ ผมจะนำใส่กระสอบ 2 วันเปิดดู แล้วนำต้นที่รากงอกแล้วมาจิ้มลงถุงที่มีวัสดุตามแบบของขุนดง (ดิน/แกลบดำ/ปุ๋ยคอก) 20/20/1 แล้วก็เปิดดูทุกวัน จนมั่นใจว่าไม่มีเมล็ดไหนงอกแล้ว
2. พวกที่งอกช้า ใช้เวลา 20-45 วันแล้วแต่ชนิด ได้แก่ ยางนา พลวง พะยอม กราด ผมจะนำใส่กระสอบ แล้วรดน้ำทุกวัน เมื่อผ่านไป 15 วันก็เริ่มเปิดดู แล้วทำต่อเหมือนกลุ่มที่ 1 แต่กลุ่มนี้ไม่ต้องเปิดทุกวัน ให้เปิด ทุก 4-5 วันก็ได้ จนกว่าจะมั่นใจว่าไม่มีเมล็ดไหนงอกอีกแล้ว
* ตอนจิ้มลงถุงให้จิ้มลงเฉพาะส่วนรากนะครับ โดยให้เมล็ดนอนอยู่บนดินในถุง
** จากนั้นก็นำต้นกล้าเข้าเรือนเพาะชำที่แดด 50 % พรมน้ำไปเรื่อยๆ ต้นอ่อนก็จะงอกขึ้นมาจากกลางรากที่แทงลงดิน
ต้นไม้มีประโยชน์ต่อคน ต่อสัตว์ และต่อสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ ผู้เขียนเป็นอีกคนหนึ่งที่มีความรักต้นไม้และธรรมชาติที่สวยงาม จึงอยากเชิญชวนให้ท่านที่สามารถทำได้ ช่วยกันปลูกต้นไม้ที่ท่านชอบ 1 คน 1 ต้น.....ล้านคน....ก็ล้านต้น..นะครับ !!
ขอบคุณ : http://www.bloggang.com และ http://www.khundong.com
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น