ไหว้พระธาตุศักดิ์สิทธิ์ 3 จังหวัด ตอนที่ 3
วันที่ 7 กันยายน 2558 ออกจากที่พักแถวประตูท่าแพ เชียงใหม่ ขับรถข้ามสะพานเนาวรัตน์แล้วเลี้ยวขวาเพื่อใช้ถนนหมายเลข 106 เดินทางกันค่อนข้างยาวสำหรับวันนี้ ผ่าน จ.ลำพูน และ อ.ป่าซาง ตามลำดับ และที่ปั้มน้ำมัน อ.ป่าซาง เรารับประทานอาหารเช้าแบบง่าย ๆ จากร้านเซพเว่น เดินทางต่อเข้าเขต อ.ลี้ได้สักพักหนึ่งจะสังเกตุป้ายข้างทางใกล้ถึงวัดบ้านปาง ชลอความเร็วเลี้ยวขวาตรงขึ้นไปยัง วัดบ้านปาง ต.ศรีวิชัย อ.ลี้ จ.ลำพูน
เหตุที่เราแวะเยี่ยมชมที่วัดแห่งนี้ก็เพราะวัดนี้เป็นวัดบ้านเกิดของ "ครูบาศรีวิชัย" นักบุญผู้ยิ่งใหญ่แห่งเมืองเหนือ อีกทั้งวัดบ้านปางยังเป็นวัดที่ครูบาศรีวิชัยบวชเรียนเป็นวัดแรกอีกด้วย
วัดบ้านปางเข้าออก - ขึ้นลง ได้อย่างละ 2 ทาง กล่าวคือ ถ้าเป็นถนนจะแบ่งเป็น 2 ทาง (ซ้าย-ขวา) แต่ถ้าเป็นทางบันได จะขึ้นได้ 2 ทางเช่นกัน คือ ด้านข้างวัด และด้านหน้าวัด จุดแรกที่เข้าเยี่ยมชม คือ พิพิธภัณฑ์อัฐบริขารพระครูบาเจ้าศรีวิชัย
บริเวณห้องโถงใหญ่ของตัวพิพิธภัณ์ ฯ
หุ่นขี้ผึ้งพระครูบาเจ้าศรีวิชัย
ภาพถ่ายพระครูบาเจ้าศรีวิชัย
สบง จีวร ของพระครูบาเจ้าศรีวิชัย
บานประตูแกะสลักไม้เก่าแก่แสดงวิถีชีวิตของคนกับพุทธศาสนา
บันไดครุฑ ทางขึ้นลงด้านข้างของวัดบ้านปาง
จุดที่ 2 คือ องค์พระเจดีย์สีทองอยู่ด้านหลังวิหารใหญ่ของวัด
จุดที่ 3 คือ รูปปั้นพระครูบาเจ้าศรีวิชัย อยู่ทางด้านซ้ายมือของวิหารใหญ่ มีความสวยงามและขนาดใหญ่ ทำให้นึกถึงอนุสาวรีย์ของครูบาศรีวิชัยที่ดอยติขึ้นมาทันที
จุดที่ 4 คือ วิหารใหญ่วัดบ้านปาง หันหน้าไปทางทิศตะวันออก มองเห็นบันไดทางขึ้นลง
ซุ้มประตูด้านหน้าของวิหารใหญ่
จุดที่ 5 คือ อุโบสถศิลาแลง ที่มีความสวยงามมาก
ประตูไม้ที่แกะสลักรูปเเทวดาประทับสิงห์ปิดทอง
ด้านบนของซุ้มประตูทางเข้า จุดเด่นอยู่ที่รูปนกยูง
ใบเสมาก็เป็นศิลาแลง
จุดที่ 6 คือ หลวงพ่อองค์ใหญ่ จะอยู่ทางด้านขวามือของวิหารใหญ่
จุดที่ 7 คือ กู่พระครูบาเจ้าศรีวิชัย ครูบาเจ้าศรีวิชัย มรณภาพเมื่อวันที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2481 ที่วัดบ้านปาง อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน สิริอายุได้ 59 ปี อัฏฐิธาตุของท่านแบ่งออกเป็น 7 ส่วน บรรจุตามสถานที่ต่าง ๆ ทั่วแผ่นดินล้านนาดังนี้ ส่วนที่ 1 บรรจุที่ วัดจามเทวี จ.ลำพูน ส่วนที่ 2 บรรจุที่ วัดสวนดอก จ.เชียงใหม่ ส่วนที่ 3 บรรจุที่ วัดพระแก้วดอนเต้า จ.ลำปาง ส่วนที่ 4 บรรจุที่ วัดศรีโคมคำ จ.พะเยา
ส่วนที่ 5 บรรจุที่ วัดพระธาตุช่อแฮ จ.แพร่ ส่วนที่ 6 บรรจุที่ วัดน้ำออกรู จ.แม่ฮ่องสอน และ ส่วนที่ 7 บรรจุที่ วัดบ้านปาง อำเภอลี้ จ.ลำพูน (ข้อมูลเพิ่มเติมจาก http://www.bloggang.com)
ภายในกู่พระครูบาเจ้าศรีวิชัย
การออกแบบอาคารเป็นแบบล้านนางดงามยิ่งนัก
เราใช้เวลานานพอควรสำหรับวัดบ้านปาง เดินทางต่อเข้า อ.ลี้ ตามเส้นทาง 106 ถึงวัดพระธาตุดวงเดียว
บริเวณด้านเหนือของวัดจะพื้นที่ของที่ตั้งองค์พระธาตุดวงเดียว และวิหารใหญ่
นอกจากจะได้กราบไหว้บูชาพระธาตุดวงเดียวแล้ว ท่านยังจะไดกราบไหว้บูชาองค์พระธาตุประจำปีเกิด ซึ่งทางวัดได้จำลองมาตั้งไว้ให้บูชาเช่นกัน
จุดเด่นอีกอย่างหนึ่ง คือ อุโบสถหลังงามที่ด้านซ้ายและขวาเป็นรูปเรือสุพรรณหงส์
จากวัดพระธาตุดวงเดียว วิ่งรถต่อไปยังวัดพระธาตุ 5 ดวง ซึ่งอยู่ไม่ไกลกันมากนัก ตามตำนานกล่าวว่า พระนางจามเทวี กษัตริย์ครองเมืองหริภุญไชยได้ยินข่าวจากราษฎรเมืองลี้ว่ามีดวงแดว 5 ดวง ปรากฎให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง จึงได้เสด็จมาทอดพระเนตรด้วยพระองค์เอง และได้ทรงเห็นแสงสว่างจากดวงแก้วทั้ง 5 ดวงลอยอยู่บนกองดิน 5 กอง พระนางจึงเกิดศรัทธาสร้างพระธาตุเจดีย์ครองกองดินทั้ง 5 กองไว้
ผู้เขียนต้องใช้ความพยายามที่จะถ่ายภาพเพื่อให้มองเห็นองค์พระเจดีย์ครบทั้ง 5 องค์
ด้านหน้าขององค์พระธาตุ 5 ดวง จะเป็นวิหารใหญ่ที่มีความงดงาม
โดยเฉพาะหลังคาหน้าจั่วที่ประดับด้วยรูปพญานาคดูสวยงาม
ซุ้มจตุรมุขที่ประดิษฐานพระประธานพระพุทธชินราช
บันไดนาคทางขึ้นสู่วิหารใหญ่อีกหลังหนึ่ง
บันไดนาคชั้นที่ 2 ของวิหารใหญ่หลังใหม่
วัดสุดท้ายที่พลาดไม่ได้เช่นกัน คือ วัดพระบาทห้วยต้ม เป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดของอำเภอลี้ เป็นวัดประจำหมู่บ้านชาวเขาพระบาทห้วยต้ม ชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยงนี้นอกจากจะทำไร่ทำสวนแล้ว ยังมีอาชีพเป็นช่างฝีมือ ทอผ้า ทำสร้อย และเครื่องเงินอีกด้วย เมื่อเราไปถึงได้สอบถามถึงอาคารที่กำลังปรับปรุง(ดังภาพข้างบน) รับทราบว่าเป็นอาคารที่เรียกว่า สธูป
เข้าไปข้างในจะเห็นความแปลกตามด้วยกระจกใส
สูงขึ้นไปบนเพดานมีการเขียนลวดลายสีทองในแต่ละชั้นของหลังคา
บานประตูไม้แกะสลักลวดลายรามเกียรติ์
วิหารหลังใหญ่ที่สวยงามและมีความสำคัญ คือ วิหารพระเมืองแก้ว
การประดับตกแต่งต้องถือว่างดงามจริง ๆ
ลวดลายหน้าบรรณของวิหาร
มองลึกเข้าไปดูแล้วต้องการเน้นสีขาวที่แสดงถึงความบริสุทธิ์
ด้านหน้าพระประธานของวิหารพระเมืองแก้ว ทางวัดพระบาทห้วยต้มได้จัดทำแแท่นวางสรีระสังขารครูบาชัยวงศา ไว้ให้คนทั่วไปได้กราบไหว้บูชาระลึกถึงพระคุณของท่าน
ด้านหน้าของวิหารพระเมืองแก้ว จะเห็นรูปปั้นของ ครูบาชัยวงศา พระอารย์ชื่อดังของภาคเหนืออีกองค์หนึ่ง เป็นผู้บูรณะก่อสร้างพัฒนาวัดพระบาทห้วยต้มจนมีชื่อเสียง
พระสี่หูห้าตา (พระอินทร์) ที่ผู้คนให้ความเคารพกราบไหว้ขอพร
ภาพวาดหน้าบรรณของประตูของวิหารหลังเก่าด้านใน สะท้อนวิถีชีวิตชาวเขาพระบาทห้วยต้ม
พระเจดีย์ 48,000 พระธรรมขันธ์
หอพระไตร
เรือโบราณจำลอง
รอยพระพุทธบาท
รางไม้สำหรับเทศกาลการสรงน้ำพระพุทธบาท
ธรรมมาสไม้ที่แกะสลักลวดลาย สีสัน งามหาที่ติไม่ได้
วิหารรอยพระพุทธบาท
มองเห็นอยู่ไกล ๆ นั้น คือ พระมหาธาตุเจดีย์ศรีเวียงชัย
วันที่เราไปเยี่ยมชม เป็นเวลาบ่ายอากาศค่อนข้างร้อนมากเพราะอยู่กลางแจ้งและมีแสงแดดตลอด สังเกตุเห็นได้ว่ายังมีการก่อสร้างเพิ่มเติม จึงได้แต่ชื่นชมและกราบบูชาในใจเท่านั้นไม่ได้เข้าไปด้านใน
ภาวนาในใจหากก่อสร้างแล้วเสร็จสมบูรณ์จะมากราบไหว้บูชาอีกครั้ง
ภาพ พระมหาธาตุเจดีย์ศรีวิชัย ที่นำมาฝากกัน
สถานที่สุดท้ายของการท่องเที่ยวครั้งนี้ คือ อุทยานแห่งชาติแม่ปิง ที่ทำการตั้งอยู่ในท้องที่ ต.แม่ลาน อ.ลี้ จ.ลำพูน สิ่งที่เราต้องการเห็นกับตาให้สมกับคำล่ำลือในความสวยงามก็ คือ น้ำตกก้อหลวง
การเดินทางสะดวกสบายจนถึงด้านหน้าน้ำตก
ยังครับยังไม่ถึง....ต้องออกแรงเดินขึ้นเนินไปอีกนิดหน่อย
ถึงแล้วน้ำตกก้อหลวง...ป้ายเขียนสวนมาก
เรื่องของความปลอดภัย จะมีเจ้าหน้าที่ขึ้นไปดูแล ณ น้ำตก ซึ่งปีนี้ปริมาณน้ำค่อนข้างน้อย
ส่งผลให้น้ำตกมีความสวยงามน้อยกว่าช่วงที่มีปริมาณน้ำมาก ๆ
ออกจากน้ำตกก้อหลวง อุทยานแห่งแม่ปิง ประมาณ 16.00 น.เศษ ถึงเวลาที่ต้องเดินทางกลับอุตรดิตถ์กันเสียที เพราะขืนชักช้าอาจมืดค่ำก่อนถึงบ้านก็เป็นได้ เรายังคงใช้เส้นทาง 106 เพื่อตรงไปยัง อ.เถิน จ.ลำปาง ช่วงจาก อ.ลี้ - อ.เถิน ประมาณ 40 กว่ากิโลเมตร "เส้นทางค่อนข้างคดเคี้ยวเอาเรื่องเหมือนกัน..ไม่ควรขับเร็ว..ถ้าไม่ชำนาญทางเส้นนี้ " ถึง อ.เถิน จะเจอกับถนนสานเอเชียหมายเลข 1 (AH2) ต้องตัดข้ามไปเข้าถนนสายย่อยหมายเลข 1048 (อ.เถิน - อ.ทุ่งเสลี่ยม) ถึงสี่แยกเข้า อ.สวรรคโลก เราเลี้ยวซ้ายเข้าถนนสายหมายเลข 1113 ตรงเข้า อ.ศรีสีชนาลัย และใช้ถนนหมายเลข 102 (อ.ศรีสัชนาลัย - จ.อุตรดิตถ์) ถึงบ้านด้วยความปลอดภัย สวัสดีครับ.
ขอบคุณ : http://www.bloggang.com
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น