เตือนภัย...ที่อาจเกิดซ้ำจากการโดยสารแท็กซี่


จากการได้อ่านภัยข่มขืน ต้องรู้ทัน เพื่อป้องกันตัวเองของ " icare.kapook.com "  เห็นว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจ และควรนำมาบอกกล่าวให้รู้กัน  ถึงแม้จะเป็นเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นมาหลายปีแล้วก็ตาม....เพราะทุกเหตุการณ์ร้ายอาจกลับมาเกิดซ้ำ (กระทำซ้ำ) ได้เสมอ...ครับ !!!

ต่อไปนี้เป็นข้อความของคนชื่อหมวย...."....ด้วยความเป็นห่วงเพื่อน ๆ พี่ ๆ ทุกคน โดยเฉพาะผู้หญิง  หมวยมีประสบการณ์ภัยใกล้ตัวที่น่ากลัวและเมื่อนึกขึ้นทีไร ก็เป็นเรื่องน่ากลัวในจิตใจทุกที  จึงอยากจะมาเล่าประสบการณ์ให้ได้รู้และได้ระวังกัน  ในความชั่วร้ายของรถ Taxi   เรื่องมีอยู่ว่า 

หมวยไปยืนรอรถ taxi  ที่หน้าสนามกีฬาแห่งชาติ (ข้าง MBK) เวลาประมาณ 4 ทุ่มกว่า ๆ  หมวยยืนรอ taxi อยู่นานมากๆๆ แต่ก็ไม่มี taxi คันไหนไปซักคัน (หมวยจะไปปิ่นเกล้า) ซักพักก็มี taxi (ยี่ห้อ toyota soluna รุุุ่นเก่า สีฟ้า ถ้าจำไม่ผิด)  วิ่งมาจอดตรงหน้า  และมันก็รับหมวยขึ้นรถไปโดยเส้นทางที่มันพาเราไปก็คือ วิ่งตรงไปตรงสะพานยศเส  แล้วก็เลี้ยวขวาผ่านตรงตลาดโบ๊เบ๊  ก็นึกในใจว่าเราเป็นผู้หญิงคนเดียวขึ้น taxi ดึก ๆ คนเดียวก็อันตรายเหมือนกันนะ (นึกถึงเรื่องที่เคยอ่าน mail ว่ามีคนถูก Taxi รมยาสลบ  ก็เลยหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาโทรหาแฟน  ก็บอกแฟนว่า 'ขึ้นรถ taxi แล้วนะอีกประมาณครึ่งชั่วโมงคงถึงบ้านแล้วล่ะ' ในใจก็หันไปมอง กท รถที่เคยเห็นในรถ taxi ทั่วไปมีจะบอกแฟนว่าขึ้นรถ taxi กท อะไร  ก็เห็นแค่ว่า ' ทพ ' แต่ไม่มีเลยทะเบียน  ก็เริ่มเอะใจ 1 อย่างแล้ว  แล้วในขณะที่หมวยพูดกับแฟน  ไอ้คนขับ taxi ชั่ว มันก็เหมือนสะดุ้งตกใจ แล้วก็หันมามองเรา  ... 

ซึ่งขณะนั้น taxi วิ่งผ่านตรงตลาดโบ๊เบ๊  พอรถเลี้ยวซ้ายเข้าตรง ธ.กรุงไทยสะพานขาว เพื่อที่จะมุ่งหน้าตรงไปสะพานผ่านฟ้า (ราชดำเนิน)  ไอ้ taxi มันก็หันมามองหมวยอีกที  แล้วมันก็หันกลับไปทันใดนั้นมือที่มันจับที่เกียร์รถยนต์ก็เหลือแค่ 3 นิ้ว (กลาง นาง ก้อย) ส่วนอีก 2 นิ้ว (นิ้วชี้กับนิ้วโป้ง) มันไปกดอะไรบ้างอย่างที่เป็นเหมือนช่องแอร์พิเศษที่รถ taxi คันอื่น ไม่มี (เท่าที่เคยสังเกตได้)แล้วมันก็เร่งแอร์ขึ้น เราเห็นพฤติกรรมมันเราก็เริ่มเตรียมตัวแล้วว่าอาจจะเกิดอะไรขึ้น 

หลังจากนั้นไม่นาน เท่าที่จำความได้ประมาณ 1 นาทีผ่านไป ก็รู้เลยว่าถูกไอ้ taxi ชั่วมันรมยาสลบแน่ๆ ความรู้แรกเลยคือ ความชามันเริ่มมาจากตรงท้อง ไล่มาตรงหน้าอก และสุดท้ายที่จำความรู้สึกได้คืนรู้สึกหน้ามืด หายใจไม่ออก แน่นหน้าอก หายใจถี่ เหมือนจะหมดสติ ในทันใดแต่ก็ตั้งสติได้ก็บอกไอ้คนขับว่าให้จอดข้างหน้าเลย (ก่อนที่จะบอกคนขับให้จอด มือก็เปิดล็อกประตูแล้วก็ที่จะบอกมัน) 

แล้วมันก็ชะลอรถแล้วถามว่าทำไม หมวยก็บอกว่า ' จอดแล้วกัน หายใจไม่ออก ถ้าไม่จอดจะกระโดดลงแล้วนะ' มันก็ไม่ถึงกับจอดสนิท แต่หมวยก็ดันประตูรถออกมาแล้วก็กึ่ง ๆ กระโดดลงออกมาจากรถ   และจากสติที่ใกล้จะหมดแล้วได้ยินมันพูดว่า ' จะลงทำไมล่ะครับ ผมไม่ได้ทำไรคุณนะ แอร์รถผมก็เย็น' แล้วก็เหมือนได้ยินมันทวงค่า taxi ก็เลยโยนให้มัน จำได้ว่า 50 บาท (ทุกคนที่ฟังเราเล่าบอกว่าไปให้มันทำไม)  ในขณะที่กระโดดลงรถ  ก็ลงมานั่งยองๆ เพื่อตั้งสติ มองเห็นอีกทีก็เห็นตัวเองอยู่กลางสี่แยกหลานหลวง และฝั่งตรงข้ามที่ลงมีป้อมเล็ก ๆ ที่ตอนแรกคิดว่าเป็นป้อมตำรวจ ก็แข็งใจวิ่งข้ามทางม้าลายไปตรงป้อมนั้น ปรากฎว่าเป็นแค่ป้อมจราจรที่ไม่ตำรวจอยู่เลย  และแล้วก็มีชายคนนึงเดินผ่านหน้า ก็ร้องให้เค้าช่วย เค้าก็เข้ามาถามว่าเป็นอะไร  ก็เล่าเหตุการณ์ให้เค้าฟัง เค้าก็นั่งเฝ้าเราซักฟักจนเราเริ่มมีสติ หมวยก็กด 191 ก่อนเลยเป็นอันดับแรก ไม่ต้องหวังเลยค่ะว่าจะโทรติด  แต่ในขณะนั้นร่างกายอ่อนแรงมาก ๆ ผู้ชายคนนั้นก็เลยบอกว่าโทรหาแฟนคุณดีกว่าไม๊ ผมจะรอเป็นเพื่อน (จริง ๆ แล้วผู้ชายคนนั้นก็หน้าตาน่ากลัวเหมือนกัน)  ก็เลยโทรหาแฟน

แล้วก็กะว่าจะพาไปแจ้งความที่ สน.นางเลิ้ง (พื้นที่เกิดเหตุ)แต่สภาพหมวยตอนนั้นก็แย่มาก เพราะเหลือแค่สติอันน้อยนิด ส่วนร่างกายหมดแรงไปเลยและในที่สุดก็ไม่ได้ไปแจ้งความ  เพราะหมวยก็จำ กท.รถไม่ได้เลย 

เช้าวันที่ 2 เมษายน เปิดทำงานหลังจากหยุดวันแรงงานไป 1 วัน  ก็ได้มาเล่าเหตุการณ์ให้เพื่อน ๆ พี่ ๆ ที่ทำงานฟัง  ทุกคนลงความเห็นว่าให้ไปแจ้งความ  เพราะอาจมีวงจรปิดบริเวณแถวสี่แยกก็ได้ ก็กะว่าตอนเย็นจะไป    พอตกเย็นก็นั่งเขียนเรื่องเตือนภัยนี้กะว่าจะส่งให้เพื่อน ๆ พี่ๆ ที่รู้จักอ่านเพื่อเป็นอุทาหรณ์สอนใจ    นายที่อยู่ในห้องได้ฟังเรื่องก็เลยอาสาพาไปแจ้งความ นายบอกว่ารู้จักกับรอง ผกก. ก็เลยไปแจ้งความในเย็นวันนั้นก็เล่าเหตุการณ์ให้รอง ผกก.ท่านนั้นฟัง  ท่านก็ให้ร้อยเวรทำการบันทึกประจำวันไว้ให้  แล้วในขณะนั้นท่านก็เล่าให้ฟังว่ามีคนมาแจ้งความเรื่องแบบนี้บ่อยในช่วงนี้  ซึ่งก็เป็น taxi ที่รับผู้โดยสารจากบริเวณเดียวกัน  ท่านก็เห็นว่าเรื่องของหมวยน่าจะเป็นประโยชน์กับคนอื่น  ท่านก็เลยต่อสายโทรศัพท์ไปยัง สถานีวิทยุรายการ สวพ.91  เพื่อที่จะให้หมวยเล่าประสบการณ์ออกรายการวิทยุ  แต่พอดีวันนั้นฝนตกและการจราจรติดมาก ๆ เค้าไม่มีช่วงเวลาให้ออกรายการ  ก็เลยไม่ได้เล่า  ท่านก็เล่าว่าน่าเสียดายที่หมวยไม่ได้ไปแจ้งความตั้งแต่วันที่เกิดเหตุ  เพราะถ้ามาแจ้งความก็อาจจะพาไปตรวจร่างกายว่า ยาสลบที่คนร้ายใช้ เป็นยาสลบประเภทไหน จะได้เป็นข้อมูลให้ตำรวจต่อไป  (เพราะยาสลบที่คนร้ายใช้ หมวยรู้สึกได้เลยว่ามันเร็วมากหลังจากที่มันเอื้อมมือไปกดยาประมาณแค่ไม่ถึง 1 นาที หมวยก็หมดแรงแล้ว ไม่อยากคิดต่อเลยว่า ถ้าหมวยตัดสินใจช้ากว่านั้น ไม่ตัดสินใจที่จะกระโดดลงมาก็คงหมดสติไปในทันใดแน่เลย)  

ก็เลยแอบเป็นห่วงเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ที่รู้จัก และช่วยบอก ๆ ต่อๆ เพื่อจะได้เป็นข้อเตือนภัยให้กับคนรู้จักต่อไป......"  (เพราะที่หมวยรอดมาได้ก็เพราะจาก mail ที่ได้รับมาในทำนองนี้ที่เคยได้อ่านเหมือนกัน)

ข้อสังเกตและข้อควรระวัง 
           1.   ถ้าไม่จำเป็นอย่าขึ้น taxi คนเดียว  แต่ถ้าจำเป็นโดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้ ก็ให้โทรหารคนรู้จัก แล้วก็บอกเลข กท taxi ที่เราขึ้นให้เค้าได้รู้   

           2.   จากสถิติที่ได้นั่งคุยกับตำรวจ  ถ้าเป็น taxi เก่าก็ควรระวัง และให้สังเกตป้าย กท. บนรถ ถ้าไม่มีให้พึงระวังว่าไม่ควรขึ้น  

           3.   จากการสังเกตเอง taxi ต้องสงสัยจะมีช่องแอร์พิเศษ อยู่บริเวณใกล้ ๆ เกียร์เพื่อเวลาเค้ากดยาแล้ว เราจะได้ไม่ทันสังเกต 

           4.   ขณะนั่งรถอยู่ถ้าคนขับมีปรับเร่งแอร์ หรือเร่งเครื่องยนต์ (ขณะที่รถติด)  ให้ตั้งเป็นข้อสังเกตไว้ว่าไม่น่าไว้วางใจ


ขอบคุณ :  http://icare.kapook.com

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

หลวงพ่อฮวบ วัดสามัคยาราม ต.บ้านด่าน อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์

หลวงพ่อกล่อม พรมสโร วัดป่ากะพี้ อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์

พระครูธรรมฐิติวงศ์คีรีเขตร (บุญใหญ่ อินทปญโญ) วัดเจดีย์คีรีวิหาร อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์