พบจารึกหินทราย-ซากเจดีย์เก่าบนเขาขี้โทน อุตรดิตถ์ "กรมศิลป์" ชี้สมัยพุทธศตวรรษ20-21



นายระเมียน จันทร์ดำ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลนาอิน อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารและชาวบ้าน ร่วมใจกันนำมีดพร้าและจอบไปถางหญ้า พร้อมปรับภูมิทัศน์ บริเวณแหล่งโบราณสถานบนยอดเขาขี้โทน หรือเขาบันไดม้า ตั้งอยู่ในพื้นที่ หมู่ 4 บ้านฟากบึง สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 60 เมตร เพื่อพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของ จ.อุตรดิตถ์ หลังจากที่ชาวบ้านพบโบราณสถานแห่งนี้ ถูกปิดตายมานานหลายปี โดยมีต้นก่อไผ่ปิดบังสถานศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ไว้ 




จากการสำรวจพื้นที่ดังกล่าว เป็นแหล่งโบราณสถานประเภทศาสนาสถานเกี่ยวกับพุทธศาสนา เนื่องจากมีตรวจพบซากเจดีย์ และซากวิหาร ซึ่งเป็นเขตพุทธาวาสและใช้เป็นเป็นสถานที่ประกอบพิธีทางศาสนา รวมถึงพื้นศิลาแลง ที่ปูเรียงเป็นขั้นบันไดตั้งแต่ตีนเขาไปจนถึงบนเขา ทั้งหมดอยู่ในยุคเดียวกัน เชื่อว่าแต่เดิมน่าจะมีพระสงฆ์อาศัยอยู่ และบริเวณจุดนี้ มีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกับเส้นทางภายในชุมชนเขต อ.พิชัยด้วย



อบต.นาอินเล็งค้นพบแหล่งท่องเที่ยวใหม่เขาขี้โทน หลังศิลปากรพิสูจน์บันไดศิลาแลง 426 ขั้น และซากเจดีย์คาดอายุกว่า 500 ปี


เจ้าหน้าที่สำนักศิลปากรที่ 6 จ.สุโขทัย ตรวจพิสูจน์อย่างละเอียดบันไดศิลาแลง 426 ขั้น บริเวณเขาขี้โทน หมู่ 4 บ้านฟากบึง ต.นาอิน สันนิษฐานว่าอยู่ในราวพุทธศตวรรษที่ 20-21 ระหว่างปี พ.ศ.1901-2100 หรือกว่า 500 ปี 




น.ส.รัตติยา ไชยวงศ์ นักโบราณคดี สำนักศิลปากรที่ 6 จ.สุโขทัย กล่าวว่า ทางสำนักศิลปากรที่ 6 ได้รับการจัดสรรงบประมาณจาก อบต.นาอิน ให้สำรวจพื้นที่แห่งนี้ เบื้องต้นเดินทางไปพบเศษอิฐ เศษกระเบื้อง เศษเจดีย์ แตกหักกระจัดกระจายเกลื่อนอยู่ทั่วบริเวณบนเขา ในลักษณะลักลอบขุดทำลายเป็นบริเวณกว้าง ทั้งขุดคุ้ย ขุดค้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ร่องรอยหลักฐานทางโบราณคดีสูญหายไป 




โบราณสถานนี้ มีสิ่งที่สำคัญประกอบด้วย พื้นศิลาแลงปูเรียงเป็นขั้นบันได จากตีนเขาไปจนถึงยอดเขา จำนวนทั้งสิ้น 426 ขั้น และบนยอดเขามีซากเจดีย์เก่าแก่ 1 องค์ ซึ่งเหลือเพียงแต่ฐานหน้ากระดาน 1 ชั้น รองรับเขียงแปดเหลี่ยมด้านบน องค์ระฆังและส่วนยอดพังทลายไปหมด เหลือความสูงประมาณ 1 เมตร พร้อมซากวิหารเก่าแก่อีก 1 หลัง เหลือเพียงส่วนฐานของวิหารและอิฐที่ใช้ปูพื้นเท่านั้น พร้อมร่องรอยเสาอาคารบางจุด เพื่อใช้สำหรับในการประกอบพิธีทางศาสนาของพระสงฆ์สมัยก่อน มีเนื้อที่โดยรอบประมาณ 2 ไร่เศษ บนยอดเขามีทิวทัศน์งดงามสามารถมองเห็นภาพหมู่บ้านที่อยู่ได้อย่างชัดเจน 




ขอบคุณ :   1)  http://www.utdclub.com

             2)  http://www.krobkruakao.com

             3)  http://www.skyscrapercity.com

             4)  http://www.mcot.net

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

หลวงพ่อฮวบ วัดสามัคยาราม ต.บ้านด่าน อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์

หลวงพ่อกล่อม พรมสโร วัดป่ากะพี้ อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์

พระครูธรรมฐิติวงศ์คีรีเขตร (บุญใหญ่ อินทปญโญ) วัดเจดีย์คีรีวิหาร อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์