เล่าเรื่องเมืองอุตรดิษฐ์ ตอน สงครามปราบฮ่อ ครั้งที่ ๒
สภาพทุ่งเชียงคำ ปัจจุบันอยู่ใน สปป.ลาว
สงครามปราบฮ่อ ครั้งที่ ๒ พ.ศ. ๒๔๒๖ (ค.ศ. 1883)
เมื่อพวกฮ่อธงเหลืองแตกหนีทัพแล้วไปจากเมืองพวน และเมืองหัวพันทั้งห้าหก กลับไปตั้งรวมกันที่เมืองซันเทียน ซึ่งได้เคยอาศัยมาแต่ก่อน แล้วเที่ยวปล้นสดมภ์เมืองน้อยตามชายแดนจีน แดนญวน จีนกับญวนจึงนัดกันให้กองทัพออกไปปราบฮ่อธงเหลือง คราวนี้พากันระดมตีเมืองซันเทียนและฆ่าปวงนันซี ผู้เป็นหัวหน้าฮ่อธงเหลืองตายในที่รบ
พวกฮ่อที่หลบหนีได้ไม่มีคนสำคัญเป็นหัวหน้า ก็แยกกันออกไปหลายพวกหลายเหล่า ต่างพวกต่างใช้ธงสีอันหนึ่งเป็นเครื่องหมายของตน จึงเกิดพวกฮ่อธงแดง และสือื่นๆอีกต่อไป เมื่อฮ่อแยกออกเป็นหลายพวกเช่นนี้ ต่างพวกย่อมมีกำลังอ่อนและแข็งต่างกัน เป็นเหตุให้ประพฤติหาเลี้ยงชีพโดยวิธีต่างกัน อาทิ เช่น
พวกฮ่อที่หลบหนีได้ไม่มีคนสำคัญเป็นหัวหน้า ก็แยกกันออกไปหลายพวกหลายเหล่า ต่างพวกต่างใช้ธงสีอันหนึ่งเป็นเครื่องหมายของตน จึงเกิดพวกฮ่อธงแดง และสือื่นๆอีกต่อไป เมื่อฮ่อแยกออกเป็นหลายพวกเช่นนี้ ต่างพวกย่อมมีกำลังอ่อนและแข็งต่างกัน เป็นเหตุให้ประพฤติหาเลี้ยงชีพโดยวิธีต่างกัน อาทิ เช่น
(๑) บางพวกที่มีกำลังมาก ก็ใช้กำลังเที่ยวเบียดเบียนผู้อื่นเอาไว้ในอำนาจอย่างที่เคยกระทำ
(๒) พวกที่กำลังน้อยก็เลี้ยงชีพด้วยการรับจ้างเป็นกำลังรบพุ่งให้ผู้อื่น
(๓) บางพวกก็อ่อนน้อมเข้ากับเจ้าเมือง ขอตั้งภูมิลำเนาประกอบการหาเลี้ยงชีพอย่างชาวเมือง เป็นต้น
การที่ฮ่อกระจัดกระจายเป็นดังนี้ทำให้ท้าวขุนเจ้าเมืองใหญ่น้อยในแดนสิบสองจุไทยและแดนพวน ต่างก็พากันจ้างฮ่อเข้าเกลี้ยกล่อมเลี้ยงไว้ หากมีอริวิวาทต่อกันก็ให้พวกฮ่อไปปล้นสะดมภ์พวกที่เป็นศัตรู ประกอบกับพวกญวนก็ไม่มารบพุ่งในดินแดนแถบนี้แล้ว
แผนภาพแสดงบริเวณสิบสองจุไทยและแดนพวน
หลวงพระบางหลัง พ.ศ. ๒๔๑๘
เมืองหลวงพระบางหลังจากเสร็จศึกฮ่อแล้ว บัดนี้ผ่านมาเป็นเวลา ๙ ปี ก็มิได้จัดการปกครองเมืองพวนและเมืองหัวพันห้าทั้งหกให้มั่นคงขึ้น เคยเป็นอยู่แต่ก่อนอย่างไรก็เป็นอยู่อย่างนั้น จึงมีฮ่อธงเหลืองพวก ๑ ตัวนายชื่อ อาจึง และ ไกวซึง ๑ คุมกำลังมาตั้งค่ายอยู่ที่ทุ่งเชียงคำในแขวงเมืองพวนประมาณ ๘ ปี
แผนภาพแสดงค่ายฮ่อที่ทุ่งเชียงคำ
ครั้นถึงพ.ศ. ๒๔๒๖ (ค.ศ. 1883) ฮ่อพวกนี้ยกกองทัพไปตีเมืองเมืองในแดนหัวพันห้าทั้งหก ซึ่งขึ้นอยู่กับหลวงพระบาง เจ้านครหลวงพระบางบอกลงมายังกรุงเทพฯ จึงโปรดฯให้เกณฑ์กำลังมณฑลพิษณุโลกเข้ากองทัพ ให้พระยาพิไชย (มิ่ง) กับพระยาศุโขไทย (ครุธ) คุมขึ้นไปช่วยเมืองหลวงพระบางก่อน แล้วให้พระยาราชวรานุกูล (เวก บุณยรัตพันธ์) ซึ่งเคยคุมกองพัพไปปราบฮ่อเมื่อยังเป็นพระสุริยภักดี ตามขึ้นไปเป็นแม่ทัพใหญ่ปราบฮ่อที่ยกไปทางเมืองหลวงพระบาง
พระยาราชวรานุกูล (เวก บุณยรัตพันธ์)
แผนภาพแสดงกองทัพของ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระบำราบปรปักษ์
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระบำราบปรปักษ์
แล้วโปรดฯ ให้เกณฑ์ทัพใหญ่เตรียมไว้อีกทัพ ๑ เผื่อมีกองทัพฮ่อยกลงมาหัวเมืองริมน้ำโขงเหมือนอย่างคราวก่อน จึงโปรดเกล้าฯให้ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระบำราบปรปักษ์ ซึ่งได้ทรงบัญชาการมหาดไทยต่อเจ้าพระยาภูธราภัยเสด็จไปเป็นจอมพล
โปรดฯให้พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าดิศวรกุมาร ซึ่งทรงบังคับการกรมทหารมหาเล็กและกรมแผนที่ โดยเสด็จไปอำนวยการทำแผนที่พระราชอาณาเขตข้างฝ่ายเหนือด้วย
ต่อมาได้ข่าวแน่นอนว่าฮ่อมีกำลังไม่มากนัก และยกไปแต่ทางเมืองหลวงพระบางทางเดียว จึงโปรดฯให้เลิกกองทัพใหญ่ที่ได้ตระเตรียมเสีย เป็นแต่ให้พระวิภาคภูวดล (แมกคาธี) คุมพนักงานขึ้นไปทำแผนที่ตามที่ได้ทรงพระราชดำริห์ไว้
ฮ่อรู้ตัว
เมื่อกองทัพไทยยกขึ้นไปถึงหลวงพระบาง พวกฮ่อทราบความก็พากันถอยหนีจากเมืองหัวพันห้าทั้งหก กลับไปตั้งค่ายใหญ่ที่ทุ่งเชียงคำ
พระยาราชวรานุกูล, พระยาพิไชย, และพระยาศุโขทัย ยกกองกำลังติดตามไปถึงทุ่งเชียงคำ เข้าล้อมค่ายไว้ แต่ฮ่อคราวนี้ตั้งมาช้านานได้ปลูกกอไผ่บังแทนพะเนียดล้อมรอบ ปืนใหญ่ที่ไทยเตรียมมีกำลังไม่พอจะยิงล้างกอไผ่ได้ กองทัพไทยยกเข้าตีค่ายหลายครั้งก็เข้าไม่ได้ ด้วยพวกฮ่ออาศัยกอไผ่กำบังยิงปืนกราดออกมา
ภาพวาดลายเส้นแสดงกองทัพฮ่อในค่าย
ครั้งหนึ่งพระยาราชวรานุกูลยกเข้าตีค่ายเอง ได้ถูกปืนข้าศึกที่ขาเจ็บป่วยแต่ยังบัญชาการศึกได้ จึงสั่งให้ล้อมค่ายฮ่อไว้ ในระหว่างที่รักษาบาดแผล ฝ่ายฮ่อถูกล้อมในค่ายก็ขัดสนเสบียงอาหาร เห็นว่าจะรบไม่ไหว นายทัพฮ่อจึงออกมาว่ากับพระยาราชวรานุกูลว่าจะยอมทู้ จะขอกระทำสัตย์เป็นข้าขอบขัณฑสีมากรุงเทพต่อไป ขออย่าให้ไทยทำอันตราย ฝ่ายพระยาราชวรานุกูล กล่าวว่า ให้ฮ่อส่งเครื่องสาตราวุธบรรดามีมาให้เสียก่อน แล้วให้ตัวออกมาหาจะไม่ทำอันตราย แต่พวกฮ่อไม่ไว้ใจ เกรงว่าไทยจะฆ่าฟันเสีย จีงไม่ออกมา กองทัพล้อมค่ายฮ่ออยู่ ๒ เดือน ผู้คนเกิดป่วยเจ็บด้วยขัดสนเสบียงอาหารส่งไม่ทัน พระยาราชวรานุกูลต้องเลิกทัพกลับมาเมืองหนองคาย เป็นอันเสร็จสิ้นการปราบฮ่อครั้งที่ ๒
ขอบคุณ : 1) http://emuseum.treasury.go.th
2) http://www.reurnthai.com
3) http://teakdoor.com
4) http://www.thaifighterclub.org
5) http://www.iseehistory.com
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น