ศัลยกรรมเปลี่ยนชีวิต “ซานิ เอเอฟ6” กับหน้าใหม่รับทรัพย์

ก่อนอื่นต้องย้อนกลับไปหาเรื่อง " ทึ่งศัลยกรรมเกาหลีใต้หน้าเปลี่ยนจนต้องมีใบรับรอง "  ซึ่งได้นำมาเสนอไปแล้วในวันอาทิตย์ ที่ 27 เมษายน 2557  กับเรื่อง " ศัลยกรรมเปลี่ยนชีวิต “ซานิ เอเอฟ6” กับหน้าใหม่รับทรัพย์ " ที่นำมาจากเว็บไซต์ผู้จัดการออนไลน์  จะเห็นได้ว่าทั้ง 2 เรื่อง  มีความสัมพันธ์กันในเชิงเนื้อหาสาระที่เกี่ยวกับการศัลยกรรมความงาม และบ่งบอกถึงความทันสมัยของวงการแพทย์เท่านั้น....ไม่มีเจตนาที่จะส่งเสริมสนับสนุนแต่ประการใด  เพราะการรับข้อมูลความรู้เรื่องใดเรื่องหนึ่ง  ย่อมนำไปสู่ความคิดพิจารณาตัดสินใจภายใต้บริบทของแต่ละบุคคลเสมอ 

                        

หน้าตาเปลี่ยนไปมากจนหลายคนฮือฮา สำหรับ “ซานิ เอเอฟ6” นิภาภรณ์ ฐิติธนการ จากสาวห้าวมาดทอมบอยตอนประกวดเอเอฟ ตอนนี้เชื่อว่าถ้าใครได้เจอเจ้าตัวคงต้องตะลึงในความสวยที่เปลี่ยนไปราวเป็นคนละคน จากที่เคยหน้าบานกรามใหญ่ แถมดั้งแหมบ มาวันนี้ซานิยังกับสาวเกาหลี ซารางแฮโย สวยขึ้นผิดหูผิดตาจนเราต้อง “นัดคุย” กับเธอ
       
งานนี้ซานิยอมรับตรงๆ แบบไม่แหลว่าไปขึ้นเขียงฉีดโบท็อกซ์กับงัดดั้งโด่งมา แถมยังคุ้มสุดๆ เพราะตั้งแต่หน้าเปลี่ยนชีวิตก็เฮงสุดๆ ทำมาหากินง่ายขึ้นงานรุมตรึม ที่เริ่ดไปกว่านั้นมีนิตยสารหัวใหญ่ติดต่อให้ไปถ่ายเซ็กซี่   5 เล่มรวด ชนิดที่ซานิบอกว่าไม่คิดไม่ฝันมาก่อนว่าสวยแล้วมันดีอย่างนี้นี่เอง นอกจากจะถามมาตอบตรงเรื่องศัลยกรรมแล้ว เจ้าตัวยังยินดีให้เราผ่าหัวใจแบบหมดเปลือกกับความรักที่ไม่เลือกเพศ หญิงก็ได้ชายก็ดี

                       

สวยตะลึงจนคนฮือฮา

“สวยขึ้นก็เป็นธรรมดาคนมีตังค์ (หัวเราะ) จะมาบอกว่าอีนี่ดัดฟันหรอ มันไม่ใช่ มันก็ต้องไปฉีดไปทำอะไรมาบ้างเดี๋ยวนี้วิวัฒนาการเยอะแยะที่ไม่ต้องผ่าตัด ยกกระชับก็ยกไปสิ หนูก็ไปยกกระชับเอาเหนียงออก (หัวเราะ) คือคนเราเปิดไปดูอินเตอร์เน็ตเลยว่าหน้าเก่าเป็นยังไง ทุกคนมีหน้าเก่า แล้วหนูคือศิลปินหน้าใหม่ หนูก็ยอมรับตรงนี้ หนูฉีดโบท็อกซ์ แต่หนูไม่ได้ทำคาง หนูทำแต่กรอบนอก แต่หนูเป็นคนคางเล็กอยู่แล้ว แต่ก่อนหน้าหนูบานเป็นกระด้ง หนูก็ไปโบท็อกซ์แค่นั้นเองทำที่เมืองไทยนี่แหละไม่ได้ไปเกาหลีอะไรเลย มีคนบอกหน้าหนูเกาหลีมากไปทำบล็อกเกาหลีเปล่า ยืนยันไม่ได้ไป และไม่ได้ร้อยไหมเพราะว่าหนูเป็นคีลอยด์ทำไม่ได้ (คีลอยด์คือแผลเป็นมีลักษณะนูนแข็งมีทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ดูน่าเกลียด) ก็เลยไม่กล้าทำ หนูเป็นคนแค่มีไขมันที่แก้ม ไขมันตอนสมัยอ้วนๆ จัดๆ ก็เลยเอาลงไงแป็ปเดียวก็ลง หน้าหนูเปลี่ยนขนาดนี้มันต้องทำอยู่แล้วแหละแหม แล้วก็เสริมดั้งแค่นี้”
       
“ทุกคนจะรู้สึกว่าทำไมมันเปลี่ยนเยอะ หนูพูดตามตรงเลย เอาแบบไม่ตอแหลเลย คือมันผอมลงแล้วหน้ามันตอบลง สังเกตแต่ขาไม่ลงขาใหญ่เท่าเดิม แต่คนจะเฮ้ย..ทำไมมันเล็กลงเยอะวะ ไปทุบหน้ามาเหรอ ไม่ได้ทุบ และดูแลตัวเองมากขึ้น แต่ก่อนหนูก็ไม่ทาครีมกันแดด ไม่กินอะไรเลย ที่เขาเอามาวิตามินมาให้หนูไม่กินเลย แล้วหนูไม่รู้นะว่ามันช่วยได้ขนาดนี้ คือแต่ก่อนทุกคนเห็นหน้าหนูก็จะแบบว่าคล้ำๆ ดูไม่ได้เลย คือแย่ว่างั้นเหอะ คนก็มาแนะนำให้ทาครีมกันแดด เราก็เริ่มเอาวะใช้ เฮ้ย..มันดีขึ้น กินวิตามินเฮ้ย..ผิวมันดีขึ้นจริงๆ ว่ะ มีวิวัฒนาการที่ไม่ได้ผ่าตัด หนูบอกเลยดาราเนี่ยผ่าตัดยากมาก เพราะว่าเขาไม่ค่อยมีเวลา เพราะฉะนั้นวิธีนึงที่เขาจะเลือกคือวิวัฒนาการทางด้านการแพทย์ ไม่ว่าจะเป็นเลเซอร์หรืออะไรก็แล้วแต่”
       
“ก็ยอมรับว่าหน้าเราเปลี่ยนจริงๆ ยอมรับว่าทำอย่างที่บอกไป แต่จะให้บอกว่าดัดฟัน อูย..ตอแหล ไม่เอา ดัดฟันดั้งขึ้นได้ไง มีเงิน ทำไปเถอะ คือทำแล้วสวยก็โอเค แต่ว่าที่อยากบอกก็คือให้ทำประมาณนึง อย่าไปทำจนเรา... คือบางคนเนี่ยพอไปทำแล้วมันติดไง นั่งดูตัวเองในกระจกทั้งวัน อันนี้ไม่พอ อันนั้นจะเอาอีก อย่าไปทำเยอะ คนที่คนเห็นหนูเปลี่ยนเยอะ คือหนึ่งหนูขาวขึ้น คนก็งงแล้วเอ๊ะทำไมเราขาวขึ้นไปฉีดนู่นฉีดนี่มาแน่เลย บอกเลยไม่ได้ฉีดนะ อะไรที่มันเป็นสารเข้าไปในร่างกายไม่มีอะไรดี เพราะฉะนั้นทาครีมกันแดด หรือครีมวิตามินน่ะดีสุด”
       
ไม่คิดระเบิดไซส์นม แต่อยากไปศัลยกรรมซิกแพ็ก

“หน้าอกไม่ทำค่ะ จะทำต่อเมื่อได้มีคนจ้างไปถ่ายแบบเซ็กซี่แล้วให้ตังค์เกินทำนมไปอีก 3 เท่า(หัวเราะ) แต่เอาจริงๆ หนูไม่ทำหรอก แต่ถามว่าผู้หญิงอยากมีใหญ่ๆ มั้ย มันก็มีคิดนิดนึงเพราะมันเสริมความมั่นใจไง แต่ว่าหนูไม่ได้รู้สึกว่ามันมีผล เพราะหนูไม่ได้แต่งตัวโชว์ขนาดนั้นไง เลยไม่ได้คิดว่ามันจำเป็นที่จะต้องไปทำ ถ้าให้ทำจริงๆ หนูไปศัลยกรรมตกแต่งกล้ามเนื้อท้องดีกว่า เพราะหนูชอบโชว์เอวไง ศัลยกรรมให้เป็นซิกแพ็กโดยที่ไม่ต้องออกกำลังกาย เย็บเลย หนูอยากมีกล้ามเนื้อที่มันเป็นซิกแพ็ก มีตังค์ทำได้เพราะแพงมาก ก็เหมือนผ่าตัดใหญ่คือผ่าตัดเอาไขมันทั้งหมดที่มีบริเวณหน้าท้องเอาออกหมดเลยให้เหลือแต่เนื้อ หนูไปศึกษาแล้ว แต่เนื่องจากแพงมากๆ มันก็เหมือนผ่าทั้งตัวนะ”

                        

สวยแล้วหากินง่ายขึ้น งานตรึม ไม่คิดไม่ฝันว่าชีวิตนี้จะมีนิตยสารแย่งไปถ่ายหวิว 5 เล่มรวด

“ตั้งแต่เราดูดีขึ้นงานก็หลากหลายขึ้นๆ งานลงสินค้าพวกผิวมีเยอะขึ้นทั้งที่ไม่เคยมีมาก่อน แล้วเวลาไปไหนคนก็อยากจ้างงานเรา เพราะว่าเราแต่งตัวได้หลากหลายขึ้น คือหนูเป็นคนโชคดีด้วยแหล่ะที่หนูไม่ได้จะห้าวอย่างเดียว ก็มีมุมที่แบบเป็นมุมหวาน มุมผู้หญิง ก็มีแต่งตัว จากแต่ก่อนก็อาจจะมองเราโอ๊ย..ลุกส์เดิม บางทีมันก็มีข้อจำกัดในการจ้างงานของเขาเหมือนกัน ตอนนี้ก็บอกสวยขึ้นทุกคนก็เอ๊ย..อยากเห็นว่ะ เรียกมันมาหน่อย หนูว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาที่ดาราจะต้องดูแลตัวเอง แล้วเราเองก็ได้เลือกมากขึ้น พอสวยขึ้นก็มีหนังสือเซ็กซี่ติดต่อมา ซึ่งชีวิตนี้ไม่เคยคิดว่าชีวิตนี้จะมี 5 เล่มติดต่อเข้ามา เยอะสำหรับเราอ่ะ คือไม่คิดเลยนะ ตั้งแต่เข้ามาเป็นAF ไม่มีหรอกคิดแบบนี้มาตลอด พอเข้ามาเยอะจนเราเองก็รู้สึกว่าเออมันมีผลว่ะ มันได้ผล มีผลเยอะ สวยแล้วดีค่ะ(หัวเราะ) แต่ถ่ายเซ็กซี่หนูยังไม่พร้อมจะถ่าย รู้สึกมันไม่ใช่แนวเรา เพราะถ้าถ่ายลุกส์หนูจะเปลี่ยนไปเลย หนูยังอยากให้คนจำหนูแบบนี้อยู่ ก็เสียดายนะ เพราะหัวหนังสือก็ระดับท็อปนะ แต่ตอนนี้หนูตัดสินใจแบบนี้ อนาคตค่อยว่ากัน”
     
ผ่าหัวใจ “ซานิ” รักไม่เลือกเพศ หญิง-ชายได้หมด ขอแค่เข้าใจกัน

“ความรักของหนูคืออยากได้คนที่เข้าใจจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายก็ได้ มีคนมาถามเราเพศไหน ทอม ดี้ ผู้หญิง หนูตอบใครไม่ได้เลยเพราะบางทีเราก็คลิกกับคนที่ไม่ควรจะเป็น หนูชอบคนที่คุยกันรู้เรื่องเข้าใจไปกันได้คบกันเป็นเหมือนเพื่อน จะเพศอะไรก็เหอะ คือหนูโชคดีที่บ้านเข้าใจ ไม่ว่าเราผิดเพศ มันต้องแบบนี้สิ ที่บ้านเคยว่าเลย อีกอย่างหนูคบมาหมด เลยไม่สามารถตอบได้ว่าเราชอบเพศไหน เพราะเราคบมาหมดเน้นที่ความรู้สึก บางคนเขาทำให้หนูโอเคใช้ชีวิตแล้วมีความสุขไม่เครียด อยากอยู่ด้วย”
     
“แต่ถ้าเรื่องนิสัยถามว่าชอบแบบไหน หนูเป็นคนใจร้อน ก็อยากได้คนใจเย็น ไม่ชอบเจ้าชู้ แต่ขอให้บอก อย่าให้รู้จากปากคนอื่นไม่ชอบ อยากไปเที่ยวอยากทำอะไรก็บอกตรงๆ แฟร์ๆ พูดมาเลย ไปอาบอบนวดนะ บอกมาเลย ไม่ว่าแฟนผู้ชายผู้หญิงขอให้บอกไม่ว่าเลยในเมื่อบริสุทธิ์ใจอ่ะ ไม่ชอบคนโกหก (ใจกว้างไปรึเปล่าให้แฟนไปนอนกับคนอื่น?) ยอมให้เขาไปนอนกับคนอื่นเพราะหนูไม่ว่างนอนด้วย(หัวเราะ) ถามว่าทำไมถึงยอม… แต่มันน่ารักตรงที่ว่าเขาบอกเรา เพราะว่าเราให้เขาไม่ได้แล้วเขาบอก เราก็ไปสิ แต่อย่าเอาโรคกลับมาก็พอ ก่อนกลับมานี่ต้องตรวจเลือดก่อน”
     
“ตอนนี้หนูยังไม่มีแฟน หนูสบายใจ ออกไปกับเพื่อนปาร์ตี้ เหงาหน่อยแต่โอเค ทุกวันนี้หนูทำงานเหนื่อยมากแล้ว แต่มันเป็นความโชคดีของหนูด้วยมั้งที่ชอบอยู่คนเดียว ชอบอยู่บ้านอ่านหนังสือดูหนังอยู่บ้าน หนูโสดนานมากนานในระดับที่เรียกว่าเหี่ยวค่ะ(หัวเราะ) ก็หลายปี แต่ก็มีคนคุย แต่ไม่ได้เป็นแฟนนะ ก่อนจะมาเป็นเอเอฟเราก็มีคนคบ แต่ก็ไม่ได้ดีอ่ะ คือเราทำงานในผับ แค่นั้นเขาก็รับไม่ได้เราก็รู้สึกว่าถ้ารับไม่ได้อย่าคบดีกว่า ตอนนี้คนมาจีบทั้งในและนอกวงการ แต่ส่วนมากจะนอก คือในวงการมันฟอร์มจัด มันดูยาก ถ้าเป็นนอกมันจะชัดเลยว่าเขาจีบ”

อยากมีลูกแต่ไม่อยากมีสามี

“ความฝันผู้หญิงอยากแต่งงานทุกคนแหละ แต่ถ้าสมมุติว่าเรามีครอบครัวที่ไม่ดี ก็อย่ามีเลย อยากมีปาร์ตี้แต่งงานแหละ แต่ยังหาแฟนไม่ได้ มันยากที่เราจะเจอคนดี เพื่อนหนูแต่งงานกันไปหลายคนบางคนบอกแฟนเจ้าชู้ บางคนแฟนไม่เจ้าชู้เลยรักมาก แต่ทะเลาะกันเรื่องเสร็จเร็ว(หัวเราะ) นึกออกป่ะ ชีวิตมันไม่สมดุลเลยนะ หนูเลยคิดว่าเราอยู่ตัวคนเดียวดีกว่าเปล่าวะ คนในอยากออกคนนอกอยากเข้า หนูเห็นครอบครัวอื่นๆ รู้สึกว่าเขาไม่แฮปปี้ หนูเลยไม่อยากแต่ง แต่อยากมีลูกนะ แต่มันก็ต้องมีแฟนก่อน”

“หนูอยากมีลูกมาก ถึงขั้นที่ว่าจะเอาผู้ชายคนนี้ แล้วจะมีลูก แล้วไสหัวมันไปเพราะอยากมีลูกอย่างเดียว หนูคิดว่าชีวิตคู่มันไม่ได้สำคัญ แค่จะหาพ่อมาทำลูกก็จบ อยากได้แบบพันธ์ดีๆ อีคิว ไอคิวดี ก็โอเคแล้ว หนูว่าหนูมีลูกได้ แต่ดูแลแฟนไม่ได้ดีแน่ๆ คือถ้าแต่งงานไปคิดว่าหย่าแน่ๆ เพราะเราดูแลตัวเองมาตั้งแต่เด็กกินง่ายอยู่ง่าย พอบางทีเรามีสามีเราก็ต้องเริ่มประคบประหงม ไปซื้อข้าวให้กินโน้นนี่ แต่อยากมีลูกแน่นอน ถ้าเกิดชาตินี้ไม่มีสามีจริงๆ ก็คิดว่าจะรับเด็กมาเลี้ยงจริงๆนะ อยากได้เด็กฝรั่ง แฟนก็ชอบแนวฝรั่ง อิตาลีเท่านั้น เข้มๆ เพราะหวังถึงลูกไง”
       
“หลายคนอาจจะห่วงว่าถ้าไม่แต่งงานแล้วบั้นปลายใครจะดูแล แต่หนูเป็นคนวางแผนเรื่องเงินตั้งแต่แรก คือรู้อยู่แล้วว่าเราอาจจะไม่มีสามีก็ได้ เราก็ซื้อบ้านทำโน่นนี่ไว้ โชคดีมากที่เพื่อนมีแต่ทอมดี้ ก็ไม่มีใครแต่งงาน ก็อยู่กันแบบนี้ เราไม่รู้สึกเดี่ยวเดียวดาย เราไม่รู้สึกว่าเราเหมือนสมัยก่อนที่เพื่อนแต่งงานหมดแล้วว่ะเรายังไงดี สมัยนี้มันไม่ใช่ เพื่อนเราก็ไม่แต่ง”

"หน้าเก่า-หน้าใหม่" สวยคุ้มค่าโบท็อกซ์ที่เสียไปจริงๆ

 

ขอบคุณ :  http://www.manager.co.th