ส่องเกษตร : กู้หน้า ข้าวไทย ได้หรือ !!


                         
ปลายปีนี้ ระหว่างวันที่ 27 ตุลาคม – 1 พฤศจิกายน  ประเทศไทยเราจะมีโอกาสจัดงานสำคัญ คือ งานประชุมข้าวนานาชาติปี 2557 (International Rice Congress 2014ภายใต้หัวข้อหลัก คือ      “ข้าวเพื่อโลก” (Rice For The World) ซึ่งไทยจะเป็นเจ้าภาพร่วมกับสถาบันวิจัยข้าวนานาชาติ                    ( International Rice Research Institute -  IRRIจัดงานที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุม ”ไบเทค” บางนา 
                                                                                                                  

งานประชุมข้าวนานาชาตินับเป็นการประชุมระดับรัฐมนตรีและหน่วยงานด้านข้าวใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีการจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกๆ 4 ปี นับตั้งแต่ครั้งแรกที่จัดขึ้น ณ สาธารณรัฐประชาชนจีนเมื่อปีพ.ศ.2545 ครั้งนี้ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพจึงเป็นครั้งที่ 4 โดยคาดว่าจะมีผู้เกี่ยวข้องในวงการข้าวทั้งในประเทศและระดับโลก เข้าร่วมงานประมาณ 1,500 คน มีทั้งนักวิจัย นักวิชาการ บุคคลากรจากสถาบันการศึกษา  ผู้แทนภาคเอกชน ผู้ประกอบการ รวมทั้งผู้ส่งออกและนำเข้าข้าวจากทั่วโลก

                   

กิจกรรมหลักในการประชุมครั้งนี้ จะประกอบด้วย  4 ส่วนหลักได้แก่ 1.การประชุมสภาความร่วมมือการวิจัยข้าวแห่งเอเชีย 2.การประชุมวิชาการข้าวนานาชาติ 3.การจัดแสดงนิทรรศการ นวัตกรรมสินค้าและเทคโนโลยีด้านข้าว และ 4.การดูงานภาคสนาม

คุณยุคล ลิ้มแหลมทอง รักษาการรองนายกฯและรมว.เกษตรและสหกรณ์ ผู้รับหน้าที่โตโผใหญ่ในการเตรียมจัดงาน(แม้ยังไม่รู้ว่า ถึงวันงานจริงๆยังจะทำหน้าที่รมว.เกษตรฯอยู่อีกหรือเปล่าก็ตาม)ได้กล่าวถึงความสำคัญของการจัดงานครั้งนี้สำหรับประเทศไทยว่า นอกจากเพื่อส่งเสริม สร้างเครือข่ายงานวิจัยข้าวแล้ว “ยังเป็นการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์เพื่อตอกย้ำคุณภาพมาตรฐานและเอกลักษณ์ของข้าวไทยที่ยังคงความเป็นหนึ่งของโลกด้วย”

                      

ฟังที่คุณยุคลพูดแบบนี้แล้ว หลายคนย่อมอดรู้สึกไม่ได้ว่า กระทรวงเกษตรฯมีความคาดหวังมากกับการจัดการประชุมข้าวนานาชาติครั้งนี้ จะมาช่วย”กู้หน้า” กอบกู้ชื่อเสียงและเกียรติภูมิของข้าวไทย หลังจากที่ต้อง”ตกอับ” ย่อยยับลงไปเพราะนโยบายประชานิยมผลาญชาติอย่างโครงการจำนำข้าว

ในอดีตต้องยอมรับว่า ไทยจัดเป็น”มหาอำนาจด้านข้าว”เลยทีเดียวก็ว่าได้ ทั้งการผลิตข้าวที่มีคุณภาพได้รับการยอมรับว่า ดีที่สุดในโลกอย่างข้าว”หอมมะลิ” และยังมีพันธุ์ข้าวพื้นเมืองคุณภาพดีหลากหลายอีกมากมาย ตลอดจนการส่งออกข้าวด้วยปริมาณมากที่สุดเป็นแชมป์อันดับ 1 ของโลก
                 

แต่เพราะนโยบายผลาญชาติอย่างโครงการจำนำข้าวที่ทำลาย”ข้าวไทย”ไปทั้งระบบ สภาพการทุกวันนี้ของข้าวไทย จึงต้องมีอันเป็นไปอย่างที่มีการตอกย้ำข้อมูลมาหลายครั้งแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ต้องสูญเสียแชมป์ส่งออกข้าวอันดับ 1 ของโลกให้กับอินเดียและเวียตนาม จนไทยร่วงไปเป็นอันดับ 3 ต่อเนื่องมา 2-3 ปี ที่สำคัญไทยยังต้องเสียแชมป์ข้าวหอมคุณภาพดีรสชาติอร่อยที่สุดอันดับ 1 ของโลกต่อเนื่องมา 3 ปี ให้กับข้าวพม่าและข้าวกัมพูชา เป็นเพราะชาวนามัวแต่เร่งปลูกข้าวให้ได้มากๆเพื่อเอาไปจำนำราคาแพง จนไม่สนใจคุณภาพ ทำให้ถูกคู่แข่งพัฒนาคุณภาพข้าวแซงหน้าทั้งเรื่องของรสชาติและความหอม

                

ที่น่าเศร้าก็คือ เพราะโครงการจำนำข้าว ทำให้พันธุ์ข้าวดีๆของไทยถูกชาวนาทอดทิ้ง ไม่มีการเก็บรักษาไว้ขยายพันธุ์ต่อ ไม่มีการพัฒนาต่อยอดให้ดีขึ้นเท่าที่ควร

การประชุมข้าวนานาชาติที่ไทยกำลังจะจัดขึ้นปลายปีนี้ ในแง่ของงานด้านวิชาการ ด้วยผลงานวิจัยหน่วยงานด้านข้าวของไทย อาจจะพอเรียกชื่อเสียงและทำให้วงการวิชาการยังคงทึ่งในคุณภาพของข้าวไทยที่ผ่านงานวิจัยมาเป็นอย่างดีได้

แต่ในความเป็นจริงของ ”ข้าวไทย” ในระบบการผลิตโดยรวมของประเทศ  คงยังต้องใช้เวลาอีกนานกว่าที่จะกอบกู้ให้ฟื้นมาดีเหมือนในอดีตได้อีก  และคงจะยังฟื้นได้ยากยิ่ง ตราบใดที่นักการเมืองซึ่งกำหนดนโยบายล้างผลาญ ”ข้าวไทย” ยังสามารถที่จะอยู่ในอำนาจได้อีกและกำหนดนโยบายประชานิยมที่ไม่เอื้อต่อการฟื้นตัวของข้าวไทย


ขอบคุณ  :  http://www.naewna.com

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

หลวงพ่อฮวบ วัดสามัคยาราม ต.บ้านด่าน อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์

หลวงพ่อกล่อม พรมสโร วัดป่ากะพี้ อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์

พระครูธรรมฐิติวงศ์คีรีเขตร (บุญใหญ่ อินทปญโญ) วัดเจดีย์คีรีวิหาร อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์