พื้นที่ปลูกข้าวดีที่สุดกำลังถูกทำลาย
สวัสดีครับ บล็อกนี้ขอมีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นในประเด็น "พื้นที่ปลูกข้าวดีที่สุดกำลังถูกทำลาย" ของคุณลม ตะวันตก หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับวันที่ 13 สิงหาคม 2556 หน้า 5 ความว่า...
"....และผมมีอีกเรื่องที่เทียบเคียงได้กับ ทำลายสิ่งแวดล้อม ความเป็นอยู่ของชาวบ้านแบบชุ่ย ๆ เพื่ออุตสาหกรรม คือการที่รัฐบาล กระทรวงอุตสาหกรรม ตลอดจน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปล่อยให้ขยายโรงงานอุตสาหกรรม ขยายนิคมอุตสาหกรรมไปในพื้นที่สีเขียว ซึ่งเป็นแหล่งปลูกข้าวที่ดีที่สุดของประเทศไทย ก็ว่าได้
นั่นคือการก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรมขึ้นในบริเวณ อำเภออุทัย รอยต่อกับอำเภอภาชี มีการถมดินจำนวนมหาศาล ก่อสร้างโรงงานพื้นที่ไม่น้อยกว่า 5 พันไร่ หมื่นไร ขณะที่พื้นที่รอบ ๆ ยังเขียวชะอุ่มไปด้วยต้นข้าวสุดลูกหูลูกตา และมีโรงงานอีกหลายแห่งที่ก่อสร้างกระจัดกระจายไปทั่วย่านละแวกของสองอำเภอนี้
ประเด็นที่ผมหยิบยกมาเอ่ยถึงครั้งนี้ เพราะพื้นที่ดังกล่าวมองมุมไหน ระบบผังเมืองยังเป็นสีเขียว
การก่อสร้างโรงงานหรือนิคมอุตสาหกรรมกระทำไม่ได้
ทำไมรัฐถึงได้ใจร้ายให้มาตั้งนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่ปลูกข้าว ที่ระบบชลประทานดีที่สุด มีน้ำ ทั้งปี ทำนาได้ถึงปีละ 3 รอบ
คนอีสาน ที่เคยนั่งรถไฟพร้อมกับผมระหว่างกลับบ้าน ซึ่งอยู่ในช่วงปลายเดือนมีนาคม ผ่านท้องนาในเขตดอนกลาง-ภาชี เขาถึงกับอุทานว่า เป็นไปได้อย่างไรที่ พื้นที่นาเหลืองอร่าม ไปด้วยรวงข้าว แถมคลองชลประทานยังมีน้ำล้นเหลือ ขณะที่บ้านเขาน้ำกินยังแทบไม่มี ไม่ต้องพูดถึงเรื่องการทำนา
เป็นความอุตสาหะ ใส่ใจของรัฐบาลชุดก่อน ๆ ที่ทุ่มเม็ดเงินมุ่งพัฒนาระบบชลประทาน แต่มาถึงวันนี้ รัฐบาล กระทรวงอุตสาหกรรม ผวจ.พระนครศรีอยุธยา กลับทำลาย เป็นความสะเพร่าของรัฐ ที่คิดง่าย ๆ ให้ตั้งอยู่ใกล้กรุงเทพ ฯ แต่ลืมไปว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ลุ่ม พื้นที่เพื่อทำการเกษตร พื้นที่ที่ควรสงวนไว้สำหรับการปลูกข้าว แหล่งอาหารสำหรับคนไทย วันหน้านายทุนจะกลับมากรรโชกรัฐ ขู่ย้ายฐานการผลิต เพราะโรงงานถูกน้ำท่วม
ผมคิดว่า รัฐบาล.....ควรทบทวน กลับมาตั้งหลักใหม่ เรื่องการสร้างนิคมอุตสาหกรรม หรือ โรงงาน อย่าเห็นแก่เงิน ทำลายพื้นที่ปลูกข้าวที่ดีที่สุดเลยครับ!!! "
จากรายละเอียดข้างต้น ค่อนข้างเห็นด้วยกับคุณลม ตะวันตก ที่ยกประเด็นดังกล่าวมาเขียนวิพากษ์วิจารณ์เห็นต่างจากการดำเนินงานของภาครัฐ ทำให้สามารถขยายความต่อได้ว่า " นโยบายการพัฒนาการเกษตร กับ นโยบายการพัฒนาอุตสาหกรรม...ไม่มีความสอดรับกันในทางปฏิบัติ " บทเรียนดังกล่าวถือเป็นบทเรียนที่ควรตระหนักและแก้ไขเชิงนโยบายอย่างจริงจัง เพราะสภาพการดังกล่าวมีให้เห็นในทุก ๆ จังหวัดเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการขยายตัวของเมือง การผลุดขึ้นของโรงงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ ทำให้บางส่วนที่เคยเป็นพื้นที่ทางการเกษตรที่อุดมสมบูรณ์ใกล้เมือง...ปรับเปลี่ยนไปอย่างน่าเสียดาย ทางออกที่เหมาะสม คือ ทุกฝ่ายที่มีบทบาทร่วม ต้องพูดคุยตกลง วางแผน และยึดประโยชน์ของส่วนรวมเป็นหลักเสมอนะครับ
จากรายละเอียดข้างต้น ค่อนข้างเห็นด้วยกับคุณลม ตะวันตก ที่ยกประเด็นดังกล่าวมาเขียนวิพากษ์วิจารณ์เห็นต่างจากการดำเนินงานของภาครัฐ ทำให้สามารถขยายความต่อได้ว่า " นโยบายการพัฒนาการเกษตร กับ นโยบายการพัฒนาอุตสาหกรรม...ไม่มีความสอดรับกันในทางปฏิบัติ " บทเรียนดังกล่าวถือเป็นบทเรียนที่ควรตระหนักและแก้ไขเชิงนโยบายอย่างจริงจัง เพราะสภาพการดังกล่าวมีให้เห็นในทุก ๆ จังหวัดเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการขยายตัวของเมือง การผลุดขึ้นของโรงงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ ทำให้บางส่วนที่เคยเป็นพื้นที่ทางการเกษตรที่อุดมสมบูรณ์ใกล้เมือง...ปรับเปลี่ยนไปอย่างน่าเสียดาย ทางออกที่เหมาะสม คือ ทุกฝ่ายที่มีบทบาทร่วม ต้องพูดคุยตกลง วางแผน และยึดประโยชน์ของส่วนรวมเป็นหลักเสมอนะครับ
ขอบคุณ : 1) หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับวันที่ 13 สิงหาคม 2556 หน้า 5
2) ภาพประกอบจาก Internet
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น