ด่านภูดู่..เปิดประตูสู่หลวงพระบาง

 

สวัสดีครับ... ครั้งนี้ขอนำเสนอเรื่องราวของ  " ด่านภูดู่ "  ซึ่งในอนาคตจะเป็นอีกจุดและช่องทางหนึ่งที่สามารถเดินทางท่องเที่ยว  ค้าขาย และแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่างไทย กับ สปป.ลาว (โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สปป.ลาวทางตอนเหนือ)  ได้อย่างสะดวกที่สุด              

                    

                                       

 ด่านภูดู่...อยู่ที่ใด 

      ในอดีต ด่านภูดู่เป็นจุดผ่อนปรนทางการค้าชายแดน ตั้งอยู่หมู่ที่ 2 ตำบลม่วงเจ็ดต้น อำเภอบ้านโคก จังหวัดอุตรดิตถ์ มีรถประจำทางผ่านแต่ต้องเดินทางโดยรถส่วนตัวต่อไปอีกประมาณ 3 กิโลเมตรจะถึงจุดตรวจชายแดนปกติจะเปิดทุกวันศุกร์กับวันเสาร์ตั้งแต่เวลา 06.00-18.00 น. โดยการเดินทางเข้าไปยังเมืองปากลายซึ่งมีระยะห่างจากจุดตรวจบริเวณตลาดชายแดนประมาณ 28 กิโลเมตร เส้นทางลูกรัง ขับเลนขวาตรงข้ามกับของประเทศไทย แต่การเข้าไปต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ของลาวก่อนซึ่งจะต้องแจ้งล่วงหน้า สำหรับหนังสือผ่านแดนนั้นยังใช้ไม่ได้เพระไม่ใช่จุดผ่านแดนถาวรหากจะเข้าไปต้องไปขอหนังสือจากนายอำเภอบ้านโคกก่อนและต้องรอให้ทางลาวตอบมาก่อนจึงจะไปได้ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 2-3 วัน รายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาโทรไปถามที่อำเภอบ้านโคก หมายเลข 055-486124  ระยะทางเชื่อมระหว่างช่องภูดู่กับเมืองต่างๆในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวมีดังนี้ 

                         

             1. ช่องภูดู่  - เมืองปากลาย             ระยะทาง    50   กิโลเมตร               

                   2. เมืองปากลาย - แขวงไชยบุรี        ระยะทาง  154   กิโลเมตร                               

                   3. แขวงไชยบุรี - เมืองหลวงพระบาง  ระยะทาง  288   กิโลเมตร   

                  

ปี 2555  :  จุดผ่อนปรนถาวรช่องภูดู่

     ข่าวเล็กๆ ที่น่าสนใจในการประชุมคณะรัฐมนตรี  1 พฤษภาคม 2555 คือการอนุมัติหลักการสร้างถนนในประเทศลาว  จากด่านภูดู่ อำเภอบ้านโคก จ.อุตรดิตถ์ ไปยังเมืองปากลาย  แขวงไชยะบุรี สปป.ลาว   โครงการนี้จะช่วยเปิดเส้นทางการค้าระหว่างไทย-ลาว เส้นทางจังหวัดอุตรดิตถ์ และแขวงไชยะบุรี เพิ่มอีกจุดหนึ่ง  

      ค่าใช้จ่ายของโครงการนี้อยู่ที่ 718 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นเงินกู้แก่ประเทศลาว 80% และเงินให้เปล่า 20% สัญญาเงินกู้นาน 30 ปี โดย 10 ปีแรกเป็นระยะเวลาปลอดหนี้ และมีข้อกำหนดว่าต้องใช้บุคคลากรจากประเทศไทย และใช้สินค้าไทยไม่น้อยกว่า 50% ของมูลค่าโครงการ

      ในจำนวนนี้เป็นค่าก่อสร้างถนน 661 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายอื่นๆ รวมกันแล้ว 57 ล้านบาท รูปแบบการให้เงินจะผ่านสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) หรือ สพพ. ซึ่งเป็นหน่วยงานของประเทศไทยที่ให้ความช่วยเหลือกับประเทศเพื่อนบ้านแถบลุ่มน้ำโขงอยู่แล้ว

      จุดผ่านแดน ช่องภูดู่ (Phu Duu Border Pass) ตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 2 ตำบลม่วงเจ็ดต้น อำเภอบ้านโคก จังหวัดอุตรดิตถ์  เดิมทีเป็นแค่จุดผ่านแดนชั่วคราวที่เปิดเฉพาะวันศุกร์และเสาร์ เวลา 06.00-18.00 น. แต่ภายหลังคณะรัฐมนตรีได้กำหนดให้เป็นจุดผ่อนปรนถาวร  ถือเป็นช่องทางการค้าระหว่างไทยและลาวอีกช่องทางหนึ่ง

   ช่องภูดู่เป็นเส้นทางการค้ามายาวนาน ระหว่างอาณาจักรสุโขทัยกับกรุงศรีสัตนานคหุต (เวียงจันทร์ในปัจจุบัน) และมีชื่อเมืองสวางคบุรีหรืออุตรดิตถ์อยู่ในศิลาจารึกหลักที่ 1 ของพ่อขุนรามคำแหงมหาราชด้วยการเดินทางในฝั่งไทยมีถนนจากอุตรดิตถ์โดยตรง  แต่ถนนในฝั่งลาวยังเป็นถนนลูกรัง โดยระยะทางระหว่างภูดู่ไปยังเมืองปากลาย อยู่ที่ประมาณ 50 กิโลเมตร และจากปากลายไปยังไชยะบุรีอีก 154 กิโลเมตร

      เมืองปากลาย (Pak Lay) ถือเป็นเมืองท่าสำคัญของลาวตอนเหนือ อยู่ติดกับแม่น้ำโขง และเป็นศูนย์กลางการขนส่งสินค้าทางน้ำของลาวตอนเหนือ   การเชื่อมเส้นทางภูดู่-บ้านปากลาย มีศักยภาพสามารถพัฒนาให้เป็น East-West Corridor จากเมืองเมียวดี ประเทศพม่า ผ่าน อ.แม่สอด จ.ตาก ผ่านสี่แยกอินโดจีน ที่ จ.พิษณุโลก ตรงเข้าสู่ จ.อุตรดิตถ์ และไปยังเมืองปากลาย ด้วยระยะทางที่สั้นที่สุดเพียง 422 กิโลเมตร นอกจากนั้น ยังสามารถพัฒนาให้เป็นเส้นทางท่องเที่ยว โดยเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวเมืองมรดกโลก กำแพงเพชร – สุโขทัย กับหลวงพระบาง ด้วยระยะทางประมาณ 500 กิโลเมตร

     มูลค่าการค้าที่ตลาดชายแดนช่องภูดู่ ในปีงบประมาณ 2553 มีมูลค่าการค้ารวม 35.19 ล้านบาท แบ่งเป็นการนำเข้า 26.52 ล้านบาท และการส่งออก 8.67 ล้านบาท ทั้งนี้มูลค่าการค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี โดยในปี 2553 มีอัตราการขยายตัวร้อยละ 85.74 แยกเป็นการนำเข้า กว่า 1.29 เท่า และการส่งออกร้อยละ 18.44 สินค้านำเข้าที่สำคัญ ได้แก่ ข้าวโพด ถ่านไม้ ขี้เลื่อย และสินค้าส่งออก ได้แก่ เครื่องใช้อุปโภคบริโภค และวัสดุก่อสร้าง เช่น ปูนซีเมนต์ และเหล็กเส้น 

                                

ปี 2556  :  จุดผ่านแดนถาวรช่องภูดู่

  mr.hotsia  ได้เล่าการเดินทางจากด่านภูดู่ - หลวงพระบาง ไว้ใน http://www.mrhotsia.com  ซึ่งจะช่วยให้มองเห็นภาพการเดินทางได้ดียิ่งขึ้น ว่า... " วันที่ 19 พฤษภาคม 2556 ได้มีการเปิดด่านภูดู่ให้เป็นด่านถาวรอย่างเป็นทางการ ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถใช้หนังสือเดินทางหรือ Passport ในการผ่านด่านภูดู่และไปออกยังด่านอื่นๆได้ของลาว mr.hotsia เข้าในวันที่ 20 พ.ย. 56 เจ้าหน้าที่ลาวบอกว่าเป็นคนแรกที่ผ่านด่านนี้ด้วย passport   หลังเปิดด่านถาวร จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ฝั่งไทยทราบว่าถึงแม้เปิดเป็นด่านถาวรแล้วแต่หากไม่ใช่คนไทยกะคนลาวก็ผ่านด่านนี้ไม่ได้ แปลกไหมละครับ  ฝากบอกต่อๆไปให้เพื่อนนักเดินทางต่างชาติรู้ด้วย

        ที่ด่านภูดู่ฝั่งตรงข้ามคือเมืองผาแก้ว ตอนนี้ด่านสากลยังไม่เสร็จต้องไปใช้ด่านผาแก้วที่ห่างเข้าไปในลาว 10 กิโลเมตร หากไม่ได้นำรถมาเองต้องโบกรถข้าวโพดไปแบบผม   รถส่วนใหญ่จะไปถึงปากลาย เราก็ช่วยค่าน้ำมันเขาไป ส่วนใหญ่เป็น    เด็กรถได้เงินเพิ่มเขาก็ดีใจครับ     สรุปจากด่านภูดู่ไปลาวในระยะสั้นนี้ไม่มีรถไปปากลาย   ต้องโบกรถหรือไปรถส่วนตัว และถนนส่วนใหญ่ยังไม่เสร็จดีน่าจะสัก  1  ปีจึงจะเสร็จ

        จากปากลายจะไปหลวงพระบางต้องไปต่อรถที่ไชยยะบุรี   มีรถออกหลายเที่ยวต่อวันนั่งรถประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่ง ระยะทาง 178 กิโลเมตร แนะนำให้พักเล่นที่ไชยยะบุรีสักคืนแล้วค่อยต่อรถไปหลวงพระบาง จากไชยยะไปหลวงพระบางมีรถวันละสองเที่ยวคือ 09.00 น. และ 14.00 น. ใช้เวลาในการเดินทาง 2 ชั่วโมง รถต้องไปข้ามแพที่ท่าเดื่อ  สะพานข้ามแม่น้ำโขงที่ไชยยะบุรีใกล้เชื่อมกันเต็มที่แล้ว อีกไม่นานจากปากลายไปหลวงพระบางใช้เวลา 5 ชั่วโมง  รวมจากภูดูมาปากลาย 1 ชั่วโมง  ผมว่ารวม 6 ชั่วโมง  หมายถึงออกจากไทยเช้าได้ไปนอนหลวงพระบางบ่ายๆ  ถือว่าไม่นานใกล้  สะดวกครับ  แต่ต้องให้ถนนและมีรถที่ด่านก่อนถึงจะไว

        จากหลวงพระบางจะเที่ยวต่อล่องเรือไปทางห้วยทรายบ่อแก้วตรงข้ามเชียงของ  หรือจะนั่งรถต่อไปเที่ยววังเวียงต่อด้วยเวียงจันทน์  หรือจะนั่งเครื่องบินด้วยส่วยการบินใหม่ของลาวคือ Laos central บินจากหลวงพระบางไปเวียงจันทน์  บินจากเวียงจันทน์ไปกรุงเทพค่าเครื่องรวมประมาณ 400 บาท ถือว่าไม่แพงมากสามารถจองผ่านเน็ตและไปจ่ายตังที่เค้าเตอร์ในเมืองหลวงพระบางครับ

     สรุปเส้นทางด่านภูดู่อุตรดิตถ์ไปหลวงพระบาง  จากบ้านผาแก้วที่ตรงหน้าด่านภูดู่ไม่มีรถมาปากลาย ต้องโบกรถหรือเอารถมาเองเท่านั้น  ผู้หญิงเดินทางคนเดียวไม่แนะนำ ฝรั่งยังผ่านไม่ได้ อย่างอื่นช่วงเดินทางอื่นมีความพร้อมหมดละน่าสนใจมาก ปากลายหน้าเที่ยวเมืองสวบที่คนไทยไปไม่มาก ไชยยะบุรีตำส้มตำอร่อย  ตลาดไชยยะบุรี ตลาดปากลายผมว่าสุดยอดครับ mr.hotsia พ.ค. 56.... "

                     

29  มิถุนายน 2556

     ผู้เขียนได้มีโอกาสเดินทางไปด่านภูดู่แห่งนี้ถึง  2 ครั้ง  ครั้งแรก วันที่ 30  กรกฎาคม  2554  เส้นทางจากตัวหมู่บ้านม่วงเจ็ดต้นไปยังด่านภูดู่ยังไม่ได้รับการพัฒนา  เป็นหลุมเป็นบ่อ ขรุขระตลอดเส้นทาง  ต้องยอมถอยรถกลับทั้ง ๆ ที่เหลือระยะทางไม่ถึง  2  กิโลเมตร   ครั้งที่สอง  ก่อนถึงวันเดินทางได้สอบถามจากเพื่อน ๆ จนแน่ใจว่าเส้นทางดีตลอด  วันที่  29  มิถุนายน  2556  จึงได้เห็นกับตาตัวเองว่าที่ตั้งด่านภูดู่เป็นอย่างไร  พบว่ามีอาคารชื้อขายสินค้า  อาคารตรวจสอบการบรรทุกสินค้าเข้าและออก  สำนักงานของเจ้าหน้าที่ประจำด่าน และหน่วยตำรวจตะเวณชายแดน  ซึ่งถือว่ามีความพร้อมพอสมควร  ได้เดินเข้าไปสอบถามเจ้าหน้าที่ด่าน  ทำให้ทราบว่าเส้นทาง หรือถนนจากด่านภูดู่ไปเมืองปากลายยังเป็นถนนดินอยู่ปัจจุบัน ( สะดวกต้องเป็นรถกระบะ หรือ ขับเคลื่อน 4 ล้อ )  อีกประการหนึ่งวันที่คนลาวนิยมเข้ามาซื้อข้าวของ คือวันศุกร์  และรถที่ชาวลาวใช้ในกการเดินทาง เรียกว่า รถต๊อก (เสียงเครื่องดังต๊อก ๆ ลักษณะเป็นรถการเกษตรแล้วพ่วงท้ายด้วยส่วนบรรทุกของ )  ฟัง ๆ ก็คล้ายกับรถตุ๊ก ๆ ของเรานั่นละครับ 

                                            

 ขอบคุณ  :   1)    http://www.youtube.com

                         2)    region4.prd.go.th  (กรมประชาสัมพันธ์ สำนักประชาสัมพันธ์เขต 4)

                                 3)    http://www.mrhotsia.com

                                         4)    ภาพจาก Internet