คิดพัฒนาการเกษตรแบบนี้ดีหรือไม่
จากรากฐานที่เข้มแข็งทางการเกษตรของไทยที่สืบทอดต่อๆ กันมาจนถึงปัจจุบัน อาจกล่าวได้ว่า..เมืองไทยเปรียบเสมือนเป็น..อู่ข้าวอู่น้ำและเป็นแหล่งผลิตอาหารสำหรับชาวโลกก็ว่าได้ เกษตรกรล้วนดูดีมีคุณค่า ได้รับการยกย่องในสายของคนทั่วไป แต่ภาพของความเป็นจริงก็ยังคงฉายออกมาให้เราได้เห็นอยู่เสมอ ๆ ว่า เกษตรกรส่วนใหญ่ของประเทศยังคงมีวิถีชีวิตที่ค่อนข้างยากจน เยาวชนคนรุ่นใหม่หันหลังต่ออาชีพการเกษตร หลั่งไหลเข้าสู่เมือง และโรงงานอุตสาหกรรม กลายเป็นค่านิยมทางสังคมไปโดยไม่รู้ตัวในที่สุด จากความมุ่งหวังและต้องเห็นการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นของอนาคตเกษตรกรไทย จึงขอเสนอแนวคิดเพื่อพัฒนาการเกษตรใน 2 ประเด็น ดังนี้
การศึกษากับการเกษตร
การจัดการศึกษาในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษา อุดมศึกษา และการศึกษานอกระบบทั้งหลาย ต้องมีหลักสูตรที่เน้นการเกษตร (เราเป็นเมืองเกษตร..ต้องสร้างคนเก่งด้านการเกษตรเป็นลำดับแรก)
ระดับประถมศึกษา และมัธยมศึกษา
1. ควรจัดหลักสูตรการเกษตรระดับพื้นฐานต่าง ๆ ที่สอดคล้องกับอาชีพของคนในภูมิภาคและท้องถิ่นนั้น ๆ
2. วิธีการเรียนรู้ มุ่งใช้วิทยากรในท้องถิ่นที่มีประสบการณ์จริง และฝึกปฏิบัติทั้งที่สถานศึกษาและบ้าน
3. นอกจากเรียนรู้ระดับพื้นฐาน + การฝึกปฏิบัติจริงแล้ว ต้องจัดกิจกรรมเพื่อปลูกฝังค่านิยม อุดมการณ์ด้านการเกษตร " อาชีพการเกษตรไม่ได้ต่ำต้อยแต่อย่างใด....เพราะเราเป็นผู้ผลิตอาหารที่ดีมีคุณภาพแก่คนทั่วไป "
ระดับอาชีวศึกษา/อุดมศึกษา
1. ส่งเสริมให้มีจำนวนสถาบันอาชีวศึกษา หรืออุดมศึกษาทางการเกษตรเฉพาะทาง (มากพอ) โดยพิจารณาจากฐานการผลิตของภูมิภาคและท้องถิ่นนั้น ๆ (เพื่อลดความซ้ำซ้อนทางวิชาการ)
2. สร้างหลักสูตรการเรียนรู้แบบองค์รวม เช่น สาขาวิชาข้าวไทย ประกอบด้วย ความเป็นมาและชนิดหรือพันธุ์ข้าวไทย วิธีการผลิตเชิงปริมาณ และวิธีการผลิตแบบพอเพียง การบำรุงรักษา การตลาดในและต่างประเทศ เป็นต้น
3. วิธีการเรียนรู้ มุ่งใช้อาจารย์/วิทยากรในท้องถิ่นที่มีประสบการณ์จริง และฝึกปฏิบัติการจริงด้วยการวิจัยพัฒนาควบคู่กันไป
4. สถาบันอุดมศึกษาการเกษตรเฉพาะทาง ที่มีอยู่ต้องมีหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงทางวิิชาการและการวิจัยพัฒนาร่วมกันกับสถาบันการศึกษา หรือหน่วยงานทางการเกษตรระดับภูมิภาคนั้นด้วย
5.การส่งเสริมให้นักศึกษา ให้เป็นเกษตรกรรุ่นใหม่ที่มีอาชีพ/ธุรกิจการเกษตรของตนเองตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยได้รับการสนับสนุนเงินทุนจากรัฐ (ยืมทุน...แล้วผ่อนคืน)
จากการเปลี่ยนแปลงและความรวดเร็วของข้อมูลความรู้ต่าง ๆ ด้านการเกษตร จำเป็นที่ต้องมีการพัฒนาเกษตรกรให้มีความรู้เท่าทันอยู่ตลอดเวลา หากมีสถาบันอุดมศึกษาการเกษตรเฉพาะทาง ในระดับภูมิภาคเป็นพี่เลี้ยงด้วยแล้ว ก็น่าจะมีส่วนช่วยพัฒนาได้ คือ
1. อบรมพัฒนากลุ่มเกษตรกรต่าง ๆ เพื่อเพิ่มขีดความรู้ความสามารถเป็นระยะ ๆ เช่น กลุุ่มข้าว
กลุ่มผักสวนครัว กลุ่มพืชไร กลุ่มพืชสวนผลไม้ เป็นต้น
2. การพัฒนาระบบคิดให้เกษตรกรพึ่งตนเองให้ได้อย่างยั่งยืน ลดวิธีการผลิตที่สร้างภาระหนี้สิน
โดยยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
3. การฝึกให้เกษตรกรวิจัยการทำการเกษตรของตนเอง (ทำไป..คิดไป..ผลเป็นเช่นไร..และจะทำอย่างไรต่อไป)
4. การพัฒนาเครือข่ายการเกษตรต่าง ๆให้เข้มแข็ง รวมตัวเพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน
อุตสาหกรรมทางการเกษตร..ต้องมาก่อน
ในเมื่อเมืองไทยของเราเป็นเมืองเกษตร ฉะนั้นนโยบายของรัฐก็ควรที่จะมุ่งเน้น และให้ความสำคัญต่อการพัฒนาภาคการเกษตรให้มีความเจริญก้าวหน้า เข้มแข็ง และเป็นฐานต่อยอดไปสู่การพัฒนาภาคอุตสาหกรรมการเกษตรที่หลากหลายได้ต่อไป
หากเป็นเช่นนี้..เราคงไม่ต้องง้อ หรือเชิญชวนให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนทำอุตสาหกรรมการเกษตรแข่งกับคนไทยหรอกครับ (รัฐควรมีกฏหมายสงวนอุตสาหกรรมที่ควรเป็นของคนไทย)
จากอดีตที่รัฐบาลไทยยุคหนึ่ง เคยฝันที่จะสร้างประเทศไทยให้เป็นประเทศอุตสาหกรรม...ชนิดที่ไม่คำนึงถึงรากเหง้าของประเทศว่าเป็นอะไรกันแน่ ปัจจุบันผลแห่งการดำเนินงานได้สร้างผลกระทบให้กับชุมชนอย่างมากมาย และนับวันจะรุนแรงมากยิ่งขึ้น
โจทย์สำคัญที่ภาครัฐควรจะได้หันกลับมาทบทวนก็คือ การกำหนดประเภทหรือชนิดของอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญ และเหมาะสมกับคนไทย /ประเทศไทย จะเห็นว่าอุตสาหกรรมบางชนิดก็ไม่จำเป็นให้เข้ามาทำในประเทศของเรา และสิ่งที่อยากเห็นและเกิดเป็นจริงในอนาคตอันใกล้นี้ก็คือ การที่ภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน มีวิสัยทัศน์ร่วมกันที่จะพัฒนาประเทศโดยใช้การเกษตรเป็นฐาน และร่วมกันสร้างสรรค์ประเทศไทยให้เป็นประเทศที่มั่งคั่งทั้งการเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรไปพร้อมกันครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น