จ.อุตรดิตถ์ จัดงานวันส่งเสริมการทำนาในโรงเรียน
นายสมชัย กมลเทพเทวินทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ (เสื้อสีชมพู)
จังหวัดอุตรดิตถ์ ร่วมกับศูนย์เมล็ดพันธ์ข้าวแพร่ และโรงเรียนบ้านกองโค จัดงานวันส่งเสริมการทำนาในโรงเรียน ส่งเสริมให้เยาวชนตระหนักถึงความสำคัญของอาชีพการทำนา
วันที่ 24 มิถุนายน 2557 ที่ผ่านมา เวลา 09.30 น. นายสมชัย กมลเทพเทวินทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นประธานเปิดงานวันส่งเสริมการทำนาในโรงเรียน ประจำปี 2557 ณ โรงเรียนบ้านกองโค ต.คอรุม อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ โดยมี นายสถิตย์พงษ์ ศิวะวามร นายอำเภอพิชัย กล่าวต้อนรับ นายธีระพงษ์ พุทธรักษา ผู้อำนวยการศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวแพร่ กล่าวรายงานถึงวัตถุประสงค์การจัดงาน พร้อมด้วย นายกนต์ธร เกิดบำรุง ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านกองโค คณะครู และนักเรียนให้การต้อนรับ
รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ ร่วมทำนาโยน
ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้ จัดขึ้นในรูปแบบบูรณาการร่วมกันระหว่างโรงเรียนบ้านกองโค อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ และศูนย์เมล็ดพันธ์ข้าวแพร่ เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนตระหนักถึงความสำคัญของอาชีพการทำนา เสริมสร้างทัศนคติของเยาวชนให้มีจิตสำนึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรม ประเพณี ที่เกี่ยวข้องกับข้าวให้ดำรงอยู่ และใหัโรงเรียนเป็นศูนย์ในการเรียนรู้เรื่องข้าว และชาวนาโดยการเรียนรู้จากการลงมือทำจริง
นอกจากนี้รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ ยังได้ร่วมทำนาโยน ซึ่งเป็นการทำนาแบบใหม่ที่เป็นการผสมผสานกันระหว่างนาดำ กับนาหว่านน้ำตม เป็นวิธีการโยนตุ้มต้นกล้าที่เพาะไว้แล้วลงในแปลงซึ่งสามารถนำมาใช้แทนการถอนกล้าปักดำด้วยแรงงานคน กิจกรรมในวันนี้มีผู้เข้าร่วมกว่า 300 คน
นักเรียนเรียนรู้ และลงมือปฏิบัติการทำนาโยน
ได้เห็นข่าวข้างต้นแล้วต้องขอชื่นชมทางโรงเรียนบ้านกองโค ชุมชนบ้านกองโค ตำบลคอรุม อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ และศูนย์เมล็ดพันธ์ข้าวแพร่ ที่ได้ร่วมกันริเริ่ม ก่อเกิดกิจกรรมที่ดี ๆให้เกิดขึ้นโดยยึดผู้เรียนเป็นสำคัญ เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนตระหนักถึงความสำคัญของอาชีพการทำนา เสริมสร้างทัศนคติของเยาวชนให้มีจิตสำนึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรม ประเพณี ที่เกี่ยวข้องกับข้าวให้ดำรงอยู่สืบไป
โครงการ หรือกิจกรรมที่ใช้โรงเรียนเป็นแหล่งเรียนรู้ และถ่ายทอดองค์ความรู้/ภูมิปัญญาด้านต่าง ๆ สู่นักเรียนหรือเยาวชน เกิดขึ้นอย่างมากมายทั้งในอดีตและปัจจุบัน หลายโครงการ/กิจกรรมยังดำรงอยู่ได้ ...แต่หลายโครงการไปไม่รอด..จอดไม่ต้องแจว เข้าทำนองที่ว่า เปลี่ยนผู้บริหาร....เปลี่ยนโครงการ , เวลาเปลี่ยน....คนเปลี่ยน อะไรทำนองนั้นล่ะครับ
ดังนั้น จึงอยากฝากแง่คิดให้โรงเรียน และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ไว้พิจารณาด้วยความปรารถนาดี คือ
1. การดำเนินโครงการต้องเน้นการพึ่งตนเองให้ได้ก่อนในระยะแรก ๆ อย่าใจใหญ่ (เน้นปริมาณมากว่าคุณภาพ) ทำมากหมดมาก เหนื่อยมาก อนาตคโครงการล้มไม่ยั่งยืน
2. ขนาดของแปลงปลูก ต้องคำนึงถึงต้นทุน และกำลังคน (นักเรียน + ผู้ปกครอง + ชุมชน) นึกเสมอว่า "ทำน้อยแต่ทำอย่างไรจึงจะได้มาก"
3. ต้องมีเป้าหมายหลักสำคัญ คือ 1) นักเรียนเกิดการเรียนรู้ 2) เกิดความรักสามัคคีของโรงเรียน+ราชการ+ชุมชน และ 3) ผู้เกี่ยวข้องมีความสุข
ขอขอบคุณ : 1) http://thainews.prd.go.th
2) http://www.utdclub.com
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น