"ตลาดนัดชายแดนสองแผ่นดิน" ภูดู่-ผาแก้ว ประจำปี 2557
วันที่ 7 สิงหาคม 2557 ที่ผ่านมา นายสมชัย กมลเทพเทวินทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นประธานการแถลงข่าวการจัดงาน "ตลาดนัดชายแดนสองแผ่นดิน ภูดู่-ผาแก้ว" ปี 2557 พร้อมด้วยนายสุพจน์ แสงชัย พาณิชย์จังหวัดอุตรดิตถ์ ร่วมแถลงข่าวการจัดงานฯ ณ ห้องคัทลียา โรงแรมฟรายเดย์ โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สื่อมวลชน เข้าร่วม
สำหรับการจัดงาน "ตลาดนัดชายแดนสองแผ่นดิน ภูดู่-ผาแก้ว" ประจำปี 2557 เป็นกิจกรรมหนึ่งตามโครงการเสริมสร้างศักยภาพทางด้านการค้ากับประเทศเพื่อนบ้านของกระทรวงพาณิย์ ซึ่งกำหนดเป็นยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ด้วยการค้าภูมิภาค และการค้าชายแดน การใช้ประโยชน์จากการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ซึ่งกิจกรรมจัดขึ้นระหว่างวันที่ 22-24 สิงหาคม 2557 ณ บริเวณตลาดนัดชายแดนด่านถาวรภูดู่ ต.ม่วงเจ็ดต้น อ.บ้านโคก จ.อุตรดิตถ์ โดยมีการนำสินค้าจากทั้ง 2 ประเทศ มาจัดแสดงและจำหน่ายในราคาพิเศษ ไม่ว่าจะเป็น สินค้าเฟอร์นิเจอร์และสินค้าหัตถกรรม จากแขวงไชยบุรี สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว การจำหน่ายสินค้าธงฟ้าราคาประหยัด ลดค่าครองชีพประชาชน สินค้าจากกลุ่ม OTOP 17 จังหวัดภาคเหนือ การแสดงดนตรีศิลปวัฒนธรรมมากมาย เพื่อเป็นการส่งเสริมการค้าชายแดนของทั้งสองประเทศ สร้างสัมพันธ์ที่ดีระหว่างจังหวัดอุตรดิตถ์ ประเทศไทย และแขวงไชยบุรี สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
ดังนั้น ระหว่าง 22 - 24 สิงหาคม 2557 หลายท่านอาจยังไม่มีโปรแกรมการเดินทางไปไหน เราขอเชิญชวนให้ท่านแวะเข้าไปเที่ยวกันในงานดังกล่าว รับรองว่าสนุกแน่ ๆ ส่วนการเดินทางไปยังด่านภูดู่มี 3 เส้นทางด้วยกัน คือ
เส้นทางที่ 1 "สี่แยกหนองกวาง" จากพิษณุโลก - อุตรดิตถ์ ถึงสี่แยกหนองกวางก่อนขึ้นเขาขาดเล็กน้อย ให้เลี้ยวขวาไปตามเส้นทางหมายเลข 1246 ผ่านบ้านแพะ อ.ทองแสนขัน แล้วต่อด้วยทางหลวงหมายเลข 1214 ไปเชื่อมต่อกับทางหลวงหมายเลข 1047 ผ่านอุทยานแห่งชาติคลองตรอน > วนอุทยานสักใหญ่ อ.น้ำปาด > อ.น้ำปาด > อ.ฟากท่า > ด่านภูดู่
เส้นทางที่ 2 "สี่แยกน้ำอ่าง" จากพิษณุโลก - อุตรดิตถ์ ตามทางหลวงหมายเลข 11 ถึงสี่แยกน้ำอ่างให้เลี้ยวขวาไปตามทางหลวงหมายเลข 1214 ผ่านหน้าโรงพยาบาลทองแสนขัน > เชื่อมต่อกับทางหลวงหมายเลข 1047 ผ่านอุทยานแห่งชาติคลองตรอน > วนอุทยานสักใหญ่ > อ.น้ำปาด > อ.ฟากท่า > ด่านภูดู่
เส้นทางที่ 3 "สี่แยกวังสีสูบ" จากเด่นชัย - อุตรดิตถ์ ตามทางหลวงหมายเลข 11 ถึงสี่แยกวังสีสูบให้เลี้ยวซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข 1045 ผ่านเขื่อนสิริกิติ์ > เชื่อมต่อกับทางหลวงหมายเลข 1047 > อ.น้ำปาด > อ.ฟากท่า > ด่านภูดู่
วางแผนการท่องเที่ยวครั้งนี้ให้ดี ๆ ครับ เช่น มานอนพักอุตรดิตถ์ก่อน 1 คืน วันรุ่งขึ้นเที่ยวชมสถานที่ต่าง ๆ ของอุตรดิตถ์ในช่วงเช้า ช่วงบ่ายตีรถขึ้นไปยังด่านภูดู่ หรือช่วงเช้าขึ้นไปเที่ยวด่านภูดู่ ตอนบ่ายเที่ยวชมสถานที่ต่าง ๆ ของอุตรดิตถ์ แล้วพักนอนอุตรดิตถ์ 1 คืน
บรรยากาศการประชุมร่วมหาแนวทางการเปิดเส้นทางรถยนต์โดยสารประจำทาง ระหว่างพิษณุโลก - อุตรดิตถ์ – จุดผ่านแดนถาวรภูดู่ - แขวงไชยะบุลี – หลวงพระบาง
ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2557 ที่ผ่านมา จังหวัดอุตรดิตถ์ จัดประชุมร่วมหาแนวทางการเปิดเส้นทางรถยนต์โดยสารประจำทาง ระหว่างพิษณุโลก - อุตรดิตถ์ – จุดผ่านแดนถาวรภูดู่ - แขวงไชยะบุลี – หลวงพระบาง เตรียมพร้อมสู่ประชาคมอาเซียน ที่ห้องประชุมกินรี โรงแรมสีหราช จังหวัดอุตรดิตถ์
นายวีระชัย ภู่เพียงใจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นประธานร่วมกับท่าน ดร.บังคง นามมะวง รองเจ้าแขวงหลวงพระบาง สปป.ลาว ในการประชุมร่วมหาแนวทางการเปิดเส้นทางรถยนต์โดยสารประจำทางหว่างพิษณุโลก – จังหวัดอุตรดิตถ์ – จุดผ่านแดนถาวรภูดู่ – แขวงไชยะบุลี – แขวงหลวงพระบาง โดยมีผู้แทนของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจากจังหวัดพิษณุโลก ตลอดจนจังหวัดอุตรดิตถ์ และจาก สปป.ลาว อาทิ ท่านแพงช้อย แพงเมือง รองหัวหน้าแผนกโยธาธิการและขนส่ง แขวงไชยะบุลี
เพื่อการประชุมในครั้งนี้ เป็นการริเริ่มในการพัฒนาเส้นทางการเดินรถโดยสารประจำทางระหว่างราชอาณาจักรไทยกับ สปป.ลาว ให้มีความสำเร็จอีกเส้นทางหนึ่ง ตามบันทึกการประชุมคณะกรรมการร่วมมือรักษาความสงบเรียบร้อยตามชายแดนไทย – ลาว จังหวัดอุตรดิตถ์ – แขวงไชยะบุลี ทั้งยังร่วมกันที่จะผลักดันให้มีการเปิดเส้นทางเดินรถยนต์ระหว่างจังหวัดอุตรดิตถ์ – แขวงไชยะบุลี และแขวงไชยะบุลี – จังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อส่งเสริมการค้าและการท่องเที่ยว ตลอดจนการเดินทางระหว่างสองประเทศให้มีความสะดวกยิ่งขึ้น
แสดงให้เห็นถึงความร่วมมือสำหรับการพัฒนาขยายเส้นทางเพิ่มขึ้นจากจังหวัดพิษณุโลก – หลวงพระบาง ที่จะรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี 2558 และสอดคล้องกับนโยบายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ การพัฒนาชายแดน ในการที่จะร่วมกันพัฒนาเส้นทางเดินรถยนต์โดยสารประจำทางให้ประสบผลสำเร็จ โดยจะได้มีการนำข้อเสนอไปร่วมกันผลักดันและดำเนินการให้ประสบผลสำเร็จในเร็ว ๆ นี้ต่อไป บรรยากาศการประชุมเต็มไปด้วยมิตรภาพ
จากการเตรียมการดำเนินงานดังกล่าว ต้องถือได้ว่าจะช่วยส่งเสริมให้การเดินทางทางบกระหว่างประเทศไทยกับ สปป.ลาว มีความสะดวกมากยิ่งขึ้น และย่อมส่งผลดีต่อประชาชนทั้ง 2 ประเทศที่จะได้ไปมาหาสู่กัน แลกเปลี่ยนสินค้ารวมทั้งค้าขายซึ่งกันและกันอย่างมั่นคงต่อไป
ขอบคุณ : 1) http://thainews.prd.go.th
2) http://pr.prd.go.th
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น