เรื่องหมูๆๆที่มีความหลากหลายและน่าสนใจ

 


หมูป่า มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Sus scrofa เป็นสัตว์กีบเท้าคู่ที่มีแกนสันหลัง เลี้ยงลูกด้วยนม และเป็นต้นสายพันธุ์ของหมูบ้านในปัจจุบัน

โดยมีรูปร่างหน้าตาคล้ายหมูบ้าน แต่มีขนตามลำตัวยาวกว่า ลำตัวมีสีเทาดำ บางตัวอาจมีสีน้ำตาลเข้ม ขนบริเวณหัวชี้ยาวออกไปทางด้านหลัง ลูกที่เกิดใหม่มีสีน้ำตาลเข้มค่อนไปทางดำ และมีแถบสีดำพาดผ่านตามยาวลำตัว ดูคล้ายลายของแตงไทย ปัจจุบันนิยมเลี้ยงกันทั่วโลกเพื่อบริโภคเนื้อ

ปกติแล้วหมูป่าอาศัยอยู่ได้ในหลากหลายสภาพแวดล้อม แต่มักเลือกอยู่ใกล้แหล่งน้ำ เพราะชอบนอนแช่ปลักโคลนในวันที่มีอากาศร้อน อีกทั้งกินอาหารได้หลากหลายทั้งพืชและสัตว์ขนาดเล็ก



ปัจจุบันหมู่ป่าตามธรรมชาติยังคงมีให้เห็นไม่มากนัก สืบเนื่องจากเป็นสัตว์ขี้ระแวงตื่นกลัว และการถูกล่าจากนักล่าสัตว์  ทำให้เกิดความคิดใหม่ด้วยการเพาะเลี้ยงหมูป่าเชิงเศรษฐกิจ ก่อเกิดอาชีพฟาร์มหมูป่าตามมา  หมูป่าถูกนับเป็นสัตว์เลี้ยงเพื่อการค้าขายที่ได้รับการยอมรับกันมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีเรื่องราวอื่นๆ ที่น่ารู้ของเจ้าหมูป่า ที่พอจะสรุปโดยสังเขปได้ 13 ข้อ ดังนี้

1. หมูป่าตัวผู้มีน้ำหนักมากกว่าตัวเมีย

2. หมูป่าตัวเมียมีเต้านม 5 คู่

3. หมูป่าเป็นสัตว์ที่ขี้หงุดหงิด อารมณ์ร้าย และตกใจง่าย

4. หมูป่าจัดเป็นสัตว์ที่ฉลาดมาก บางตำราเชื่อว่าฉลาดกว่าสุนัข แต่สุนัขควบคุมอารมณ์ได้ดีกว่า

5. ขณะออกหาอาหารจะส่งเสียงร้องดังอยู่ตลอดเวลา

6. หมูป่ามีฟัน 44 ซี่ มีเขี้ยว 4 เขี้ยว ที่งอกยาวตลอดชีวิต ใช้เป็นอาวุธป้องกันตัว โดยตัวผู้จะมีเขี้ยวที่คมขึ้นเรื่อยๆ และเขี้ยวจะงอกยาวได้ถึง 6 ซม.

7. ในอดีตมนุษย์นำขนบริเวณคอของหมูป่ามาใช้ทำแปรงสีฟัน กระทั่ง ค.ศ.1930 จึงมีการประดิษฐ์วัสดุสังเคราะห์ในการทำแปรงสีฟันแทน

8. เมื่อถึงสภาวะคับขัน หมูป่าจะหลบหนีไปอยู่ตามพุ่มไม้เตี้ยๆ



 

9. หมูป่าออกลูกได้ตลอดทั้งปี แม่หมูเป็นสัดนานประมาณ 21 วัน มีช่วงเวลาตั้งท้องนาน 115 วัน ออกลูกคราวละ 1-12 ตัว ส่วนใหญ่มักอยู่ในช่วง 4-8 ตัว

10. หมูป่ามีจมูกไวมาก ประสาทรับรสก็พัฒนาเป็นพิเศษ แต่สายตาไม่ดีนัก

11. หมูป่าว่องไวมาก ไม่อุ้ยอ้าย ไม่อ้วนเทอะทะเหมือนหมูบ้าน ในตัวที่โตๆ อาจสูงถึงเอวคน หรือสูงกว่า วิ่งได้เร็วและหักเลี้ยวเป็นมุมแคบๆ ได้ และไวพอที่จะจับงูกินได้

12. ในธรรมชาติ หมูป่ามีอายุขัยเฉลี่ย 10 ปี แต่เคยพบอายุยืนที่สุดถึง 27 ปี

13. ในทางไสยศาสตร์เชื่อว่า “เขี้ยวหมูป่า” สามารถป้องกันภยันตรายได้ ส่วน “ช้องหมู” คือ ขนหมูป่าที่เรียงถักกันเป็นวง เชื่อกันว่าเป็นเครื่องรางช่วยให้คงกะพัน


หมูป่าอาฆาต ลูกเมียถูกฆ่า ตามล่าเอาชีวิตถึงบ้าน

เรื่องที่ข้าพเจ้าจะเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้น ไม่ว่าคนหรือสัตว์ ถ้าหากมีความกดดัน ความแค้น อะไรก็ทำได้เหมือนกัน โดยไม่เสียดายชีวิตตัวเอง

เรื่องมีอยู่ว่า ณ หมู่บ้านห้วยข้าวก่ำ อำเภอจุน จังหวัดพะเยา เมื่อประมาณ ปี 2557 ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านข้าพเจ้าอาศัยอยู่ประมาณ 50 กิโลเมตร ซึ่งตอนนั้นข้าพเจ้าได้ข่าว และติดตามเรื่องนี้และอยู่ในความทรงจำไม่เคยลืมและเป็นอุทาหรณ์สอนใจคนได้เป็นอย่างดี ได้มีพรานป่าคนหนึ่ง ชอบล่าสัตว์ โดยเฉพาะหมูป่า ซึ่งป่าอยู่ห่างจากหมู่บ้าน ระยะทางเกือบ 10 กิโลเมตรเป็นป่าใหญ่

นายพรานถือว่ามีความชำนาญเรื่องป่า เป็นอย่างมาก อายุมากพอสมควรพรานหวันมีอายุในวัย 68 ปีได้พบฝูงหมูป่าในป่า และได้ยิงหมูป่าตัวแม่ ซึ่งเป็นแม่และลูกอ่อน จำนวน 4 ตัว พรานหวัน ได้นำหมู่ป่าตัวแม่นำกลับมายังบ้านพร้อมลูกอีก 4 ตัว และนำลูกหมูป่า มาขังเลี้ยงไว้จำนวน 1 ตัวที่เหลือก็ประกอบอาหาร แจกจ่ายชาวบ้าน เลี้ยงไว้ในสวนลิ้นจี่


เชื่อหรือไม่ สันชาตญานของหมูป่า สัตว์ป่า หมูป่านับว่าเป็นสัตว์ที่มีจมูกที่ดีเยี่ยมชนิดหนึ่ง มีตัวผู้ ได้ติดตามรอยเลือด และกลิ่นจากป่า นับสิบกิโลเมตรจากป่าใหญ่เพื่อตามหาตัวเมียและลูกจากป่ามายังหมู่บ้านโดยไม่เกรงกลัวสิ่งใด เพื่อตามหาลูก ที่พรานหวันได้ นำหมูป่าตัวแม่และลูกที่เข้ามาชำแระที่สวนหมู่บ้าน

ระยะทางเกือบสิบกิโล หลายวันที่หมูป่าตัวผู้ได้ติดตามกลิ่นมายังหมู่าน และเข้ามายังสวนลิ้นจี่ พรานหวัน และได้มาเจอตัวลูกที่เหลือไว้ 1 ตัว ตัวลูกและตัวพ่อได้ส่งเสียงหากัน ทำให้พรานหวัน ได้ยินเสียง ถือปืนแก๊ป ลงมาบรรจุกระสุน เจอหมูป่าตัวผู้ในระยะ ประชั้นชิด

พรานหวัน ได้เล็งปืนมายังหมูป่า เล็งไปยังจุดตาย พร้อมลั่นไก แต่สับไกแก๊ปไม่แตก หมูป่าเห็นพรานหวัน จึงกระโจนเข้าใส่ พุ่งอย่างเต็มแรง และใช้ฟันอันคม ขย้ำ พร้อมให้เขี้ยวแทง เข้าหน้าอกทะลุปอดขาทั้งสองข้าง และสะโพกทั้งสองข้างเป็นแผลฉกรรจ์เลือดเต็มนองพื้นจนเลือดโชก เสียงโหยหวน ของพรานหวัน ดังไปถึงเพื่อนบ้านใกล้ จึงพากันมาดูและวิ่งไปเอาปืน มาระดมยิงหมูป่าตัวพ่อจนแน่นิ่งเสียชีวิต

ส่วนพรานหวันเลือดโชกเปียกไปทั้งตัว ชาวบ้านจึงนำร่างไปยังโรงพยาบาลจุน แต่ระหว่างทางทนพิษบาดแผลไม่ไหวจึงเสียชีวิตในเวลาต่อมา ผลการชันสูตรศพ พบว่าโดยแพทย์ระบุว่าเสียชีวิตเนื่องจากเสียเลือดมากและมีเลือดคั่งในปอด

ชาวบ้านต่างวิพากษ์วิจารณ์ เป็นอย่างมาก และตั้งศพพรานหวัน ไว้ บ้านเลขที่ 268 ม.4 ต.ห้วยข้าวก่ำ อ.จุน เราลองคิดดูหมูป่าคงมีความแค้นมากที่ตามลูกเมียจากในป่าสู่ในชุมชนโดยไม่กลัวอะไรเลย

เพื่อตามหาครอบครัว กว่าจะมาเจอใช้เวลาหลายวันเลยทีเดียว นี่คือสันชาตญานของสัตว์ที่มีครอบครัว นี่คงเป็นอีกเรื่องราว ที่ข้าพเจ้าอยากนำมาเล่าเพื่อเป็นอุทาหรณ์ สอนใจ การได้รับความกดดันต่างๆ จากการเบียดเบียน หรือการเอารัดเอาเปรียบไม่ว่าคนหรือสัตว์ เมื่อไม่มีทางออก ก็สู้จนตัวตาย และคงมีอีกหลายเรื่องราวที่จะนำมาเล่าให้ฟัง จงอางตามหาคู่ซึ่งก็เกิดขึ้นจริงจะมาเล่าให้ฟังกันครั้งต่อไปครับ

#ถึงแม้จะทำผิดก็ถือว่าเป็นกรรมของพรานหวันที่ก่อร่วมกันมากับหมูป่า


 

ขอบคุณ  :  1. https://workpointnews.com

                2. FB เล่าเรื่องรัฐฉานกับล้านนาและล้านช้าง ในสยามประเทศ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

หลวงพ่อฮวบ วัดสามัคยาราม ต.บ้านด่าน อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์

หลวงพ่อกล่อม พรมสโร วัดป่ากะพี้ อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์

พระครูธรรมฐิติวงศ์คีรีเขตร (บุญใหญ่ อินทปญโญ) วัดเจดีย์คีรีวิหาร อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์