เลือก ป.ป.ช.ศึกหนักรบ.หลบดุษฎีเจอสุภา
เลือก ป.ป.ช.ศึกหนักรัฐบาลหลบ'ดุษฎี'เจอ'สุภา' : ขยายปมร้อนโดย ปิยะนุช ทำนุเกษตรไชย
หากจะย้อนไปดูปูมหลังของ "พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ" ผู้สมัครชิงตำแหน่งกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ผลงานชิ้นคลาสสิกยังต้องยกนิ้วให้การวิเคราะห์ข้อมูลการข่าว ครั้งเป็นตำรวจสังกัด "กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด" (บช.ปส.) จนนำไปสู่การบุกเข้าจับกุมตัวและยึดทรัพย์ "สุภาพ สีแดง" หรือ "ภาพ 70 ไร่" คดีสมคบค้ายาเสพติดในชุมชนคลองเตย
ส่วนผลงานที่สร้างต้นทุนทางสัมคมให้ "พ.ต.อ.ดุษฎี" มาพร้อมกับตำแหน่ง "เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ" (ป.ป.ท.) คือ การเดินหน้าปราบทุจริตอย่างจริงจัง โดยเฉพาะ 3-4 โครงการใหญ่ ได้แก่ การตรวจสอบขบวนการนำเข้ารถยนต์หรูเลี่ยงภาษีศุลกากรซึ่งทำให้รัฐจัดเก็บภาษีได้ต่ำเกินจริง 10,000 ล้านบาทต่อปี 2.การตรวจสอบขบวนการทุจริตจำนำข้าวกรณีบริษัทเพรสซิเดนท์อะกริ เทรดดิ้ง ปลอมสัญญาสั่งซื้อข้าวและใบขน นำมาเวียนเทียนขอกู้เงิน 9,000 ล้านบาทจากธนาคารกรุงไทย และการตรวจสอบการทุจริตออกเอกสารสิทธิในเขตป่าสงวนจ.ภูเก็ต เพื่อจัดสรรขายให้ต่างชาติ เมื่อถูกสั่งเบรก "พ.ต.อ.ดุษฎี" กลับนำทีมลงพื้นที่สุ่มตรวจสอบการทุจริตขุดลอกคลอง ทำถนน ซ่อมสะพาน สร้างฝาย ไม่เว้นแม้แต่พื้นที่ที่เป็นฐานเสียงของเจ้ากระทรวงตราชั่ง ต่อมามีคำสั่งย้าย "พ.ต.อ.ดุษฎี" ไปนั่งตบยุงเป็น "รองปลัดกระทรวงยุติธรรม" เรื่องเงียบไปจนกระทั่ง "อนุกรรมการป.ป.ช." สั่งให้ส่งหลักฐานเพิ่มเติมคดีหลบเลี่ยงภาษีนำเข้ารถยนต์หรู "พ.ต.อ.ดุษฎี" จึงว่าจ้างรถบรรทุก 6 ล้อ ขนเอกสารเต็มคันรถไปส่งมอบ หลังจากนั้นเก้าอี้ของ "พ.ต.อ.ดุษฎี" ถูกเขย่าอีกครั้ง มีความพยายามเสนอย้ายไปเข้ากรุผู้ตรวจราชการหลายครั้ง แต่ยังไม่สบโอกาส จึงอาจเป็นจุดเปลี่ยนให้ "พ.ต.อ.ดุษฎี" คิดหันเหชีวิตไปจับงานปราบทุจริตเต็มตัว แต่ด้วยสไตล์แสบเรียกพี่ อาจทำให้ “ชื่อดุษฎี” ไม่โดนใจทั้งกลุ่มทุนและพรรคการเมือง เพราะเขามองว่าทุจริตไม่มีพวกเรา พวกเขา พรรคประชาธิปัตย์เองก็ซึ้งมาแล้วกับคดีเงินบริจาคทีพีไอ 257 ล้านบาท รอบนี้ คู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อของดุษฎี จับจ้องไปที่ "สุภา ปิยะจิติ" รองปลัดกระทรวงการคลัง ประธานคณะกรรมการคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว หญิงเหล็กที่กล้าออกมาเปิดเผยตัวเลขเลขขาดทุนการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวทุกเมล็ด รัฐบาลเจอศึกหนัก หลบ "ดุษฎี" เจอ "สุภา" "ผมมาสกัดกั้นการทุจริต" สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาเปิดรับสมัครผู้เข้ารับการสรรหาเป็นกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จำนวน 1 คน มีผู้มาสมัคร 10 คน บุคคลที่มีชื่อเสียง อาทิ "พลเดช ปิ่นประทีป" อดีตรมช.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์, "พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ" รองปลัดกระทรวงยุติธรรม, "สุภา ปิยะจิตติ" รองปลัดกระทรวงการคลัง "พ.ต.อ.ดุษฎี" ถือเป็นผู้หนึ่งที่น่าจับตามอง แรงจูงใจที่ทำให้เขาตัดสินใจมาสมัครเป็นกรรมการป.ป.ช. เพราะเห็นว่างานปราบทุจริตรอไม่ได้ หากกว่าจะเกษียณต้องรออีก 7 ปี "พ.ต.อ.ดุษฎี" มองว่าการทุจริตคอร์รัปชั่นไม่ได้เกิดจากข้าราชการระดับสูงหรือนักการเมือง แต่เกิดจากกลุ่มทุนไทยซึ่งมีอยู่ไม่กี่ตระกูลเข้ามาครอบงำนักการเมืองและข้าราชการ สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ อีก 3 ปีข้างหน้าไทยจะเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ทุนต่างชาติจะไหลเข้ามาฮุบกลุ่มทุนไทย ถ้าทุนต่างชาติเข้ามาคุมนักการเมืองกับข้าราชการได้ ทรัพยากรทั้งในอากาศและใต้ดิน ไม่ว่าจะเป็นพลังงาน โทรคมนาคม คมนาคม ไฟฟ้า หรือประปาที่ควรเป็นผลประโยชน์ของคนไทย จะถูกดึงไปเป็นของต่างชาติทั้งหมด จึงสมัครมาเป็นป.ป.ช.เพื่อสกัดกั้นการทุจริต โดยเฉพาะการทุจริตเชิงนโยบาย “ประเด็นนี้กลุ่มทุนไทยเริ่มไหวตัวแล้ว โดยสะท้อนออกมาด้วยการผลักดัน พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท เพื่อให้รัฐบาลระดมทุนมาใช้หนี้ผ่านการขายพันธบัตร จากนั้นกลุ่มทุนตระกูลใหญ่จะนำเงินไปลงทุนในพันธบัตร ซึ่งจะเป็นหลักประกันว่า เงินของพวกเขาปลอดภัยไปอีก 30 ปี” หากมีโอกาสเข้าไปเป็นป.ป.ช. "พ.ต.อ.ดุษฎี" ตั้งใจว่าจะเริ่มต้นตรวจสอบการใช้งบประมาณของกระทรวงศึกษาธิการ ที่ใช้เงินหมื่นล้านบาทดูแลเด็ก 7.2 แสนคน ผ่านโครงการนมโรงเรียน ซึ่งมีการทุจริตตั้งแต่การจัดโควตา โดยเฉพาะการเลื่อนเปิดเทอม 5 เดือน รองรับเออีซี เด็กบางโรงเรียนจะไม่ได้ดื่มนม 5 เดือน ตรงนี้จะเป็นช่องทางทำกำไร ขอบคุณ : http://www.komchadluek.net |
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น