ส.ส.ประชาธิปัตย์ รุมค้าน พ.ร.บ.กู้เงิน ชี้ เปิดช่องโกงต้นน้ำ-ปลายน้ำ

ส.ส.ประชาธิปัตย์ รุมค้าน พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ชี้ ไม่โปร่งใส เปิดช่องโกงตั้งแต่ต้นน้ำ-ปลายน้ำ หวั่นคนรู้ข้อมูลกว้านซื้อที่ดินล่วงหน้า ก่อนสภาฯ มีมติ 289 ต่อ 123 เสียง ยืนยันคำปรารภตามร่าง พ.ร.บ. เดิม           ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2556 ที่รัฐสภามีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ วงเงิน 2 ล้านล้านบาท ในวาระ 2 โดย นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ลุกขึ้นอภิปรายว่า ร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้ ขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 169 เพราะไม่มีรายละเอียดในโครงการ ไม่ผ่านการศึกษาความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจและสังคม ดูแล้วไม่โปร่งใส มีแนวโน้มจะเกิดการทุจริตได้ง่าย เนื่องจากตรวจสอบการใช้เงินได้ยาก หากสภาฯ ผ่านร่างพ.ร.บ.นี้  ทางพรรคจะยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความต่อไป           เช่นเดียวกับ นายจุติ ไกรฤกษ์ ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ที่ระบุว่า ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ จะเปิดช่องให้เกิดการทุจริตตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ อย่างเช่นถ้ามีใครรู้ข้อมูลการก่อสร้างล่วงหน้า ก็สามารถไปกว้านซื้อที่ดินในราคาถูกเอาไว้ก่อนได้ เพราะคนในพื้นที่ยังไม่ทราบราคาที่ดินของตัวเอง จึงอยากให้คณะกรรมาธิการฯ ชี้แจงให้ชัดเจน และรัฐบาลต้องประกาศล่วงหน้าว่าจะก่อสร้างโครงการใดตรงพื้นที่ใด บริเวณไหน เพื่อให้ชาวบ้านทราบว่าราคาที่ดินน่าจะมีแนวโน้มพุ่งสูงขึ้น           หลังจากนั้น ได้มีการพิจารณาคำปรารภ ซึ่ง นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประสำนักนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะ รองประธาน กมธ. ได้ลุกขึ้นชี้แจงว่า กมธ. ขอยืนยันความในคำปรารภในร่างฯเดิม โดยหลักการได้มีการกำหนดวงเงินในกู้เงินเป็นจำนวน 2 ล้านล้านบาท ดังนั้น คำปรารภก็จะได้สอดคล้องกับหลักการในแต่ละมาตราต่อไป            ในส่วนที่ฝ่ายค้านแสดงความกังวลเรื่องหนี้สาธารณะนั้น นายวราเทพ ชี้แจงว่า ได้สอบถามจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว ยืนยันว่า การใช้จ่ายวงเงินกู้ 2 ล้านล้านบาทตามกรอบระยะเวลา 7 ปี จะมีกรอบในเรื่องเพดานหนี้สาธารณะไม่เกิน 50% พร้อมยืนยันว่า การผลักดันโครงการนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงปัจจัยผลกระทบ เพราะไม่มีใครรู้ว่าระยะเวลา 7 ปีที่กู้นั้นจะมีผลกระทบที่จะทำให้รายได้ลดลงหรือไม่           จากนั้น ที่ประชุมได้ลงมติ 289 เสียง ต่อ 123 เสียง ให้คงคำปรารภที่ระบุว่า "โดยที่เป็นการสมควรมีกฎหมายว่าด้วยการให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ มีมูลค่ารวมกันไม่เกินสองล้านล้านบาท" ไว้ตามร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน ที่ผ่านวาระแรกของการพิจารณา  ก่อนเข้าสู่การพิจารณาในมาตรา 1 ต่อไป                                                    นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์                                                               นายจุติ ไกรฤกษ์ ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์                                         นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประสำนักนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง                  ขอบคุณ  :  http://hilight.kapook.com