โรคมะเร็งปากมดลูก ป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีน



                        

โรคมะเร็งปากมดลูก มักเกิดกับผู้หญิงที่อายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป แต่เดี๋ยวนี้คุณหมอบอกว่าเป็นในผู้หญิงอายุน้อยลง แล้วก็ทำให้ผู้หญิงไทยของเราเสียชีวิตด้วยโรคนี้เยอะมากทีเดียว จากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุข พบว่า โรคมะเร็งปากมดลูกคร่าชีวิตหญิงไทยปีละ 5,200 ราย เฉลี่ยวันละ14 ราย ป่วยเพิ่มขึ้นปีละ10,000 ราย โดยกลุ่มอายุที่พบสูงสุดคือ 45-55 ปี


มะเร็งปากมดลูกส่วนใหญ่เกิดจากสาเหตุอะไร ?

เกิดจากโรคติดต่อ ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสชนิดหนึ่งและเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ชื่อเต็มๆเรียกว่า “ฮิวแมน แพปพิลโลมา ไวรัส” ( Human Papilloma Virus ) หรือ HPV เชื้อตัวนี้ถ้าเราจะคุ้นเคยก็คือเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดโรคหูดหงอนไก่ ซึ่งเราพบมาเนิ่นนานแล้ว เพียงแต่ว่ากลุ่มเชื้อของตัวที่ทำให้เกิดโรคหูดหงอนไก่นั้นเป็นชนิดความรุนแรงน้อยส่วนตัวที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งปากมดลูกนั้น เป็นชนิดที่มีความรุนแรงมาก 

จะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นโรคมะเร็งปากมดลูก ? 
ถือเป็นปัญหาสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากในระยะแรกๆที่ยังไม่มีการลุกลามจนกลายเป็นมะเร็งขึ้น มีแค่ระดับเซลล์ที่ผิดปกติแค่นั้น ผู้ป่วยจะไม่มีอาการอะไรเลยแล้วก็จะนิ่งนอนใจว่าคงจะไม่ได้เป็นอะไร ทำให้คลาดจากการตรวจที่สำคัญไปคือการตรวจสุขภาพประจำปีทางสูตินรีเวช ซึ่งผู้ป่วยมักจะมาพบแพทย์ด้วยอาการมีเลือดออกมากผิดปกติ ตกขาวมีกลิ่นที่ผิดปกติหรือมีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ 

วิธีการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกทำอย่างไร ?
ในปัจจุบันมีวิธีการตรวจหลายวิธี ตั้งแต่วิธีการดั้งเดิมที่เรียกว่า “แปปสเมียร์” ปัญหาที่พบจากการตรวจวิธีนี้คือ เวลาเราป้ายเซลล์ไปตรวจในบางครั้งไม่ได้เซลล์ที่ผิดปกติทั้งๆที่ผู้ป่วยรายนั้นอาจมีเซลล์ที่ผิดปกติซ่อนอยู่ เมื่อเราไปได้เซลล์ที่ปกติมา เพราะฉะนั้นการอ่านผลหรือการรายงานผลต่างๆก็ต้องรายงานว่าปกติ ซึ่งทำให้ผู้ป่วยรายนั้นไม่ได้รับการวินิจฉัยที่ถูกต้อง อันนี้เรียกว่าผลลบลวง 

อีกวิธีคือการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยวิธี “ตินเพร็พ”โดยใช้อุปกรณ์เฉพาะในการเก็บตัวอย่างป้ายเยื่อบุผิวจากบริเวณปากมดลูก ด้วยวิธีเดียวกับการทำแปปสเมียร์ แล้วนำเซลล์ตัวอย่างที่เก็บได้ทั้งหมดใส่ลงในขวดน้ำยาเพื่อรักษาเซลล์ส่งเข้าเครื่องอัตโนมัติ ในการเตรียมเซลล์เยื่อบุผิวที่ปราศจากสิ่งปนเปื้อนพวกมูกหรือเม็ดเลือดและลดการซ้อนทับของเซลล์ที่หนาแน่นเกินไปลงบนแผ่นสไลด์แก้ว ช่วยเพิ่มโอกาสให้พยาธิแพทย์ในการตรวจพบความผิดปกติที่มีอยู่ได้ดียิ่งขึ้น

การตรวจเชื้อไวรัสเอชพีวี เป็นการตรวจทางห้องปฎิบัติการในขั้นละเอียดมากขึ้น ซึ่งสามารถตรวจหาเชื้อได้ ร้อยละ 99.70 

ใครบางที่ควรมาตรวจคัดกรองหามะเร็งปากมดลูก ?
สตรีทุกคนควรตรวจมะเร็งปากมดลูก โดยเน้นสตรีที่มีเพศสัมพันธ์แล้วและโดยเฉพาะอย่างยิ่ง
** สตรีที่มีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุน้อย 
** สตรีที่มีบุตรหลายๆคน 
** สตรีที่สูบบุหรี่ 

ข้อแนะนำสำหรับผู้หญิงไทยในเรื่องมะเร็งปากมดลูก 
โรคมะเร็งปากมดลูกเป็นโรคซึ่งพบได้มากและมีอันตรายร้ายแรง แต่ถ้าเราสามารถตรวจพบในระยะแรกเริ่ม การรักษาอาจแค่ผ่าตัดเอาชิ้นเนื้อที่ผิดปกติบริเวณนั้นออกหรือตัดมดลูกออกไป ในผู้ป่วยที่มีลูกเพียงพอแล้ว ซึ่งสามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่ถ้าปล่อยให้ระยะของโรคลุกลามจนเป็นมะเร็งระยะ 1,2,3,4 ความรุนแรงมักจะมากขึ้นเรื่อยๆการรักษาก็จะทำได้ยากลำบาก และมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนสูงขึ้นอย่างมาก

แต่ปัจจุบันมีการนำ “วัคซีน”มาฉีดเพื่อป้องกันการเกิดมะเร็งปากมดลูก ซึ่งใช้ได้ผลค่อนข้างดี โดยฉีดบริเวณต้นแขนและใช้ได้กับเด็กหญิงตั้งแต่อายุ 9 ปีขึ้นไป วัคซีนนี้มีประสิทธิภาพดีในการป้องกันมะเร็งปากมดลูก ซึ่งเป็นอีกวิธีหนึ่งในการป้องกันตัวเองจากโรคร้ายที่คุกคามชีวิตของผู้หญิงไทยในปัจจุบันให้มีความปลอดภัยมากขึ้น จึงแนะนำให้ปรึกษาแพทย์สูตินรีเวชเพื่อขอคำแนะนำเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนดังกล่าวด้วย ร่วมกับวิธีการตรวจคัดกรองที่มีประสิทธิภาพดีก็จะช่วยลดโอกาสการเกิดมะเร็งปากมดลูกได้มากที่สุด 



ขอบคุณ : http://www.ram-hosp.co.th และ สายด่วนสุขภาพโทร 0-2743-9999

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

หลวงพ่อฮวบ วัดสามัคยาราม ต.บ้านด่าน อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์

หลวงพ่อกล่อม พรมสโร วัดป่ากะพี้ อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์

ต่อหัวเสือ...ไม่ร้ายอย่างเสือ