1. เลือกซื้อจาน ชาม ช้อน ส้อมให้เป็นชุด ดีกว่า เพราะนอกจากจะดูเก๋ น่าใช้และเป็นระเบียบแล้ว ยังได้ทุกอย่างครบถ้วน โดยไม่ต้องเสียเวลาเลือกซื้อทีละอย่าง
2. ถ้ามั่นใจว่าเครื่องครัวดีไซน์เก๋ไก๋ไม่แพ้ใคร ก็ควรหาตู้โชว์มาใส่
3. ควรทำช่องหน้าต่างบริเวณครัว นอกจากจะช่วยระบายกลิ่นที่เกิดจากการปรุงอาหารแล้ว ยังช่วยให้ในห้องครัวมีแสงสว่างเพียงพออีกด้วย จึงไม่ต้องเป็นห่วงว่า ห้องครัวจะอับชื้นหรือระบายอากาศไม่ดี
4. อย่าปล่อยให้ด้านในฝาตู้ต้องว่างไป โดยเปล่าประโยชน์ อาจใช้เป็นที่แขวนเครื่องครัวเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือเป็นที่วางแก้วหรือของตกแต่ง
5. ในส่วนที่เลอะบ่อย ๆ ควรเลือกใช้วัสดุที่สามารถทำความสะอาดได้ง่าย เช่น สเตนเลส หินแกรนิต หรือกระเบื้อง
6. ทำตู้ให้เยอะที่สุดเพื่อเอาไว้เก็บเครื่องครัวที่ไม่ค่อยได้ใช้ จะได้ไม่รกหูรกตา และยังง่าย ต่อการทำความสะอาด ซึ่งสมัยนี้นิยมทำตู้ build in ติดกับผนังครัว หรือง่าย ๆ หาซื้อตู้แขวนผนังสำเร็จรูปซึ่งมีขายทั่วไป วิธีนี้ช่วยประหยัดเนื้อที่และทำให้ห้องครัวดูเรียบร้อยขึ้น
7. ลองหาซื้อเครื่องครัวที่มีดีไซน์เก๋ ๆ หรือแปลกตา รับรองว่าครัวจะมีชีวิตชีวามากขึ้น
8. เลือกวัสดุปูพื้นที่มีพื้นผิวมัน เพราะจะช่วยสะท้อนแสงทำให้ห้องสว่างขึ้น ให้ความรู้สึกสะอาด และยังดูแลรักษาง่ายอีกด้วย
9. แสงสว่างในครัวก็สำคัญควรมีดวงไฟในครัวมากกว่าหนึ่งจุด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานและสัดส่วนของห้องครัว นอกจากนี้ ยังควรคำนึงถึงปลั๊กไฟสำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวอีกด้วย
10. หลีกเลี่ยงที่จะวางเฟอร์นิเจอร์อย่างโต๊ะไว้ในครัว แต่ถ้าหากหลีกเลี่ยงไม่ได้จริง ๆ ควรเลือกที่สามารถพับเก็บได้ หรือมีดีไซน์แบบบาง หรือโต๊ะแบบกลม
11. เลือกขนาดของตู้เย็น หม้อหุงข้าวและไมโครเวฟให้เหมาะกับจำนวนสมาชิกในครอบครัว เพราะนอกจากจะประหยัดไแล้ว ยังช่วยให้ไม่เปลืองเนื้อที่ในครัวอีกด้วย
12. หาซื้อขวดแก้วใสแบบที่มีฝาปิดมิดชิดมาเก็บไว้บ้าง เผื่อใส่อาหารหรือเครื่องปรุงที่ต้องซื้อทีละมาก ๆ ช่วยให้ดูสวย
สะอาดและเป็นระเบียบข้อคิดห้องครัว...ขนาดมินิ
1. ควรมีการวางแผนในเรื่องการใช้สอยและการออกแบบพื้นที่จัดเก็บของได้อย่างมีระบบแล้วจะสามารถที่จะเนรมิตให้ครัวขนาดเล็กเป็นครัวที่ "จิ๋วแต่แจ๋ว" คือ มากด้วยประโยชน์ใช้สอย และดูสวยงามมีระเบียบได้ไม่แพ้ครัวขนาดใหญ่
2. พื้นที่ขนาดเล็ก ๆ นั้น รูปแบบห้องครัวที่เหมาะสมได้แก่ ห้องครัวรูปตัวไอ (I) หรือครัวที่จัดชิดผนังด้านหนึ่ง (One-Wall Kitchen) ผังลักษณะนี้เหมาะกับพื้นที่แคบหรือยาวโดยผนังอีกด้านหนึ่งอาจกั้นด้วยผนังเบาหรือบานประตูแบบเลื่อนปิดเปิด เพื่อแบ่งส่วนห้องครัวกับส่วนพื้นที่ใช้สอยอื่น ๆ เหมาะกับห้องชุดหรือโฮมออฟฟิศ อีกรูปแบบหนึ่งที่นิยมใช้กันทั่วไปก็คือ ครัวรูปตัวแอล (L-Shaped Kitchen) เป็นครัวในลักษณะเข้ามุม และเข้าได้กับพื้นที่ใช้สอยทุกขนาด ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่
3. สิ่งที่สำคัญมากสำหรับห้องครัวขนาดเล็ก ๆ ก็คือ เรื่องของตู้จัดเก็บของ เพราะพื้นที่ซึ่งมีอยู่ค่อนข้างจำกัดนั้น หากปล่อยให้รกไปด้วยข้าวของวางระเกะระกะอยู่เต็มพื้นที่ของท็อปเคาน์เตอร์แล้ว ก็คงไม่เหลือพื้นที่ไว้ใช้งานเป็นแน่ ด้วยข้อจำกัดในเรื่องของพื้นที่ ครัวขนาดเล็กจึงจำเป็นต้องออกแบบพื้นที่จัดเก็บของโดยใช้พื้นที่ในแนวสูงให้เป็นประโยชน์ เช่น การออกแบบตู้เก็บของไว้ที่ผนัง โดยอาจจะออกแบบตู้แบบเต็มพื้นที่ผนัง หรืออย่างน้อยก็ควรใช้ความสูงจากพื้นถึงเพดานให้เป็นประโยชน์ การออกแบบหน้าบานตู้ ควรใช้รูปแบบที่ดูสวยงามสะอาดตา ให้ดูกลมกลืนกับส่วนอื่น ๆ ของบ้าน สีที่เหมาะสมควรเป็นสีโทนอ่อน เพื่อให้พื้นที่ขนาดเล็กนั้น ดูโปร่งกว้าง สบายตา ไม่อึดอัด
4. สำหรับครัวที่มีพื้นที่ค่อนข้างแคบ ตู้ตั้งพื้นควรจะให้มีความลึกมากหน่อย และให้ปิดเปิดในลักษณะที่ดึงออกมาเหมือลิ้นชักโดยติดล้อเลื่อนไว้ด้านล่างหรือทำเป็นรางเลื่อน อาจออกแบบให้ตู้มีความสูงที่แตกต่างกัน เพื่อความคล่องตัวในการใช้งาน เช่น ตู้สูงสำหรับเก็บของใช้ที่มีขนาดใหญ่ ตู้ขนาดกลางอาจออกแบบให้เป็นโต๊ะกึ่งลิ้นชักเก็บของและติดล้อเลื่อนให้สามารถเคลื่อนย้ายออกมาได้ทั้งตู้เพื่อใช้ทำหน้าที่คล้าย ๆ เป็น Island หรือเกาะลอยขนาดมินิ สำหรับใช้งานอเนกประสงค์ในการเตรียมอาหาร
5. ครัวขนาดเล็กมักนิยมจัดให้มีพื้นที่ต่อเนื่องกับส่วนอื่น ๆ ภายในบ้าน เช่น ส่วนรับประทานอาหาร เพื่อประหยัดพื้นที่และช่วยให้พื้นที่ส่วนนี้ดูโปร่งกว้าง การออกแบบครัวจึงต้องคำนึงทั้งเรื่องของความสวยงาม และระบบระบายอากาศที่ดีควรจัดให้มีระบบระบายอากาศที่ดีโดยธรรมชาติ เช่น มีหน้าต่างระบายอากาศและรับแสงสว่างจากธรรมชาติ รวมทั้งควรติดตั้งเครื่องดูดควันหรือพัดลมระบายอากาศช่วย เพื่อให้สามารถระบายอากาศได้รวดเร็ว มิให้กลิ่นอาหารอบอวลอยู่ภายในห้อง
6. วัสดุที่ใช้ในการตกแต่งห้องครัวไม่ว่าจะเป็น พื้น ผนัง ท็อปเคาน์เตอร์ หน้าบานตู้ ควรใช้วัสดุที่ทำความสะอาดได้ง่าย ไม่เก็บกลิ่น เช่น หินแกรนิต สเตนเลส กระเบื้องเซรามิก วัสดุสังเคราะห์ประเภทลามิเนต ดีไซน์ของบานตู้ควรมีลักษณะที่เรียบง่ายไม่มีลวดลาย ร่อง หรือซอกมุมที่จะกลายเป็นที่สะสมของคราบน้ำมันหรือฝุ่น
แบบห้องครัวสวยๆ หลายๆ แบบ
ขอบคุณ : บ้านขวัญใจโดม และ http://bannseepark.blogspot.com
ภาพประกอบ : จากอินเตอร์เน็ต
|
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น