ยุคมืดระบบข้าราชการ สยบใต้อุ้งเท้าระบอบทักษิณ !!

ข่าวและภาพซึ่งตกเป็นเป้าถูกวิพากษ์วิจารณ์และถูกตั้งคำถามเป็นอย่างมากก็คือกรณีที่นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายคนโตของนักโทษชายแม้วทำตัวดุจ”พญาโอ๊ค”เดินทางไปตรวจน้ำท่วมที่จ.ปราจีนบุรีเมื่อวันที่ 23 ก.ย.ที่ผ่านมาซึ่งที่สำคัญก็คือ น.ส.จิตรา พรหมชุติมา ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี และข้าราชการระดับสูงของจังหวัดคอยให้การต้อนรับและพาเดินตรวจสถานการณ์น้ำท่วม                  คำถามก็คือ “พญาโอ๊ค” ไปตรวจน้ำท่วมด้วยสถานะอะไร และทำไมข้าราชการระดับสูงระดับแม่เมืองปราจีนบุรีถึงกับต้องสละเวลาการบริหารราชการแผ่นดินเพื่อช่วยเหลือประชาชนมาต้อนรับขับสู้พา”พญาโอ๊ค”เดินตรวจน้ำท่วมราวกับเป็นเสนาบดี            เสียงวิพากษ์วิจารณ์และข้อสังเกตุก็คือหรือเพราะแม่เมืองปราจีนบุรีต้องการเอาใจผู้มีอำนาจทางการเมืองเพราะรู้กันอยู่ว่า “พญาโอ๊ค” คือลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของ นักโทษหนีคุก ผู้นำตัวจริงที่บงการอยู่หลังฉากรัฐบาลหุ่นเชิดชุดนี้ และก็เป็นหลานชายของ นายกฯนกแก้วยิ่งลักษณ์ ชินวัตร   คำถามตามมาก็คือ หากเป็นลูกตาสีตาสา แม่เมืองปราจีนบุรีจะให้การต้อนรับขับสู้พาเดินตรวจน้ำท่วมดุจเดียวกับ”พญาโอ๊ค”หรือไม่               ที่ผ่านมาระบอบทักษิณถูกตั้งข้อสังเกตุว่าใช้อำนาจผลประโยชน์ทุกรูปแบบมุ่งยึดระบบราชการเพื่อปูทางไปสู่การผูกขาดอำนาจยึดครองประเทศอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดทั้งการสถาปนารัฐตำรวจ และแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการที่เป็นพวกหรือยอมเป็นทาสรับใช้เข้าไปคุมตำแหน่งสำคัญในทุกหน่วยราชการรัฐวิสาหกิจ จนทุกองคพายพของประเทศขณะนี้อาจเรียกได้ว่าอยู่ภายใต้อุ้งเท้าระบอบทักษิณ ขณะที่ข้าราชการที่ซื่อสัตย์สุจิต มีความรู้ความสามารถ มีจิตสำนึกเพื่อชาติบ้านเมืองกลับถูกกลั่นแกล้งเตะโด่งพ้นตำแหน่งสำคัญ อาทิกรณี นายถวิล เปลี่ยนศรี อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.)ซึ่งเป็นลูกหม้อของสมช.มาตั้งแต่เริ่มรับราชการและมีประวัติใสสะอาด มีความรู้ความสามารถและมีจิตสำนึกรับใช้ชาติ แต่กลับถูกย้ายเข้ากรุเพียงเพราะไม่ยอมสยบเป็นพวกทาสรับใช้ระบอบทักษิณ                 รัฐบาลชุดนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์มาตลอดจนฉาวโฉ่ไปทั้งโลกว่าเป็นหุ่นเชิดของ นักโทษหนีคุก ซึ่งสื่อต่างชาติเคยประโคมข่าวเขียนบทวิจารณ์อย่างคึกโครมไปทั่วโลกว่าประชาธิปไตยแบบไทยๆแปลกประหลาดที่สุดในโลก เพราะบริหารประเทศด้วยระบบ “1 ประเทศ 2 นายกฯ” โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นเพียงผู้นำหุ่นเชิดซึ่งมีหน้าที่เพียงอ่านบทตามสคริปต์และแต่งตัวสวยๆเดินสายออกงานปรากฏตัวตามที่ต่างๆ ขณะที่ผู้นำซึ่งมีอำนาจอย่างแท้จริงคือ นักโทษชายแม้ว ที่บงการอยู่หลังฉากน้องสาวและมีอำนาจถึงขนาดสามารถแต่งตั้งรัฐมนตรีหรือประชุมคณะรัฐมนตรีผ่านการ สไกป์จากนอกประเทศ                   กรณี”พญาโอ๊ค”และแม่เมืองปราจีนบุรีเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กแต่เป็นเรื่องสำคัญเป็นอย่างยิ่งและอาจเป็นอีกตัวอย่างที่สะท้อนยุคมืดและเป็นสัญญาณอันตรายต่อความมั่นคงของชาติจากการที่บัดนี้ระบบราชการราวกับเป็นสมบัติส่วนตัวของคนบางตระกูลและเหมือนกลายเป็นทาสรับใช้อยู่ภายใต้อุ้งเท้าระบอบทักษิณไปแล้วอย่างสิ้นเชิง   ขอบคุณ  :  http://www.naewna.com