"สมชัย" นัดหารือบิ๊ก ปชป.31 ธ.ค. เหน็บรัฐบาลด่ามากอาจลาออก




30 ธ.ค. 56 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ศูนย์เชื่อมต่อรถโดยสารประจำทางศูนย์ราชการ (โกเด้นเพรส) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง   กล่าวถึงการหารือกับ 3 แกนนำระดับสูงของรัฐบาลเมื่อวันที่ 29 ธ.ค.ที่ผ่านมาว่า มีการนดหมายกันพูดคุยกันในตอนค่ำวันที่ 29ธ.ค. สิ่งที่คุยกันเป็ฯนการประเมินสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นว่าหากเดินหน้าสู่การเลือกตั้งจะมีอะไรเกิดขึ้นทั้งก่อนการเลือกตั้ง วันเลือกตั้ง และหลังการเลือกตั้ง  และหากไม่มีการเลือกตั้งจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง พยายามมองสถานการณ์ครอบคลุมรอบด้าน เบื้องต้นการพูดคุยแนวโน้มเป็นไปแนวทางที่ดี เพราะหากเดินหน้าต่อไปสถานการณ์จะรุนแรง จึงเห็นค่อนข้างตรงกันว่าสถานการณ์ที่เป็นปัญหาอาจจะไม่ใช่สิ่งที่เราอยากเห็น จากนั้นพูดคุยกันว่าแล้วจะมีแนวทางข้อเสนออะไรบางอย่างเพื่อให้สถานการณ์ดีขึ้น โดยข้อสรุป ข้อเสนอแนะน่าจะเป็นคำตอบที่ดีระดับหนึ่งและสามารถทำได้หลายรูปแบบ  คือ 1.กกต.ฝ่ายเดียว  2. กกต.ร่วมกับรัฐบาล และ3.ร่วมกัน 3 ฝ่ายระหว่าง  กกต. รัฐบาล และคู่กรณีขัดแย้ง  
 
นายสมชัย กล่าวต่อว่า ขอไม่เปิดเผยผลสรุปการหารือ  โดยข้อสรุปที่ได้นำไปสู่การคลี่คลายปัญหาสังคมระดับหนึ่ง  รัฐบาลยอมลดราวาศอก รัฐบาลมีท่าทีทางที่ดี  แต่อย่าให้ตนพูด  เพราะ ยังไม่ถึงเวลา”นายสมชัย กล่าวและว่า  จะทำหน้าที่เป็นตัวกลางนำสิ่งที่พูดคุยกับรัฐบาลไปแลกเปลี่ยนกับเปลี่ยนกับคู่ขัดแย้ง ตอนนี้สามารถนัดคุยกับพรรคประชาธิปัตย์ได้แล้ว คือ ในวันที่  31  ธ.ค. ส่วนเวลาใด  สถานที่ใด ไม่บอก โดยคนที่จะมาคุยด้วยเป็นระดับสูงมากในพรรคประชาธิปัตย์ 2-3 คน   ส่วนการพูดคุยกับ กปปส. นั้นเราได้ขอนัดหมายไปแล้ว  แต่ กปปส.ยังไม่ตอบรับการพูดคุย ยังไม่เปิดโอกาส ยังไม่พร้อมในตอนนี้ อาจจะมีบางอย่างอยู่ใจที่ไม่ทราบสาเหตุ ดังนั้นคาดว่าน่าจะไม่สามารถคุยได้ทันก่อนปีใหม่  วันที่ 1 ก็น่าจะไม่ได้ เพราะยังมีการรับสมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งเป็นวันท้าย กกต.คงต้องอยู่แก้ไขสถานการณ์ คงยุ่งยากพอสมควร ส่วนวันที่ 2 คงไม่ทัน เพราะ กกต.ทั้ง5 คนมีการประชุมในช่วงเช้า  อย่างไรก็ตามในวันที่ 2 ม.ค.คงนำผลการพูดคุยกับฝ่ายรัฐบาล และพรรคประชาธิปัตย์ แต่ยังไม่คุยกับ กปปส.ไปรายงาน กกต.ให้รับทราบข้อสรุปทีได้ทัน ทั้งนี้ไม่มีคำว่าสาย การพูดคุยเมื่อไหร่ก็ได้ ซึ่งการพูดคุยแต่ละฝ่ายจะต้องปรับเข้าหากัน
 
เมื่อถามถึงการรับสมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขต8 จังหวัดภาคใต้ยังคงมีปัยหาอยู่ นายสมชัย กล่าวว่า เท่าที่ตรวจสอบยังมีปัญหาอยู่ เจ้าหน้าที่ กกต. ไม่สามารถเข้าพื้นที่ได้ แต่ก็ได้ใช้พยายามรับสมัครให้ได้ ตอนนี้มีปัญหาเรื่องสถานที่ บุคลากร หลายคนบอกว่าทำไมไม่ย้ายสถานที่ เมื่อที่เดิมมีปัญหา ตอนนี้อยากเรียนว่าการย้ายสถานที่ยากลำบากมาก แม้จะขอใช้สถานที่ราชการ แต่ก็ไม่ได้รับความร่วมมือ ขอไปแล้วไม่มีหน่วยราชการใดจะให้เราไปใช้สถานที่  สถานที่ที่เรายังไม่ได้ขอคือ สถานีตำรวจและค่ายทหาร  ซึ่งอาจจะเป็นทางเลือกท้าย ๆ ที่จะดำเนินการ
 
“เราคิดว่าค่ายทหารไม่เหมาะสมเพราะเราอยากให้การเลือกตั้งจัดการโดยพลเรือน ตรงนี้เป็นความเห็นของ กกต.ทั้ง 5 คน เราไม่อยากให้ใช้รถหุ้มเกราะทหารพาไปในสถานที่รับสมัคร ส่วนการใช้สถานีตำรวจก็อาจตำเป็นเป้าแน่นอน อย่างไรก็ตามในวันนี้จะวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์กับ กกต.จว.ที่ยังมีปัญหาเพื่อสอบถามว่าจะมีการย้ายสถานที่หรือไม่ เพราะรัฐบาลก็พยายามเสนอมาว่าทำไม กกต.ไม่ใช่สถานที่อื่นรับสมัคร ดังนั้นอาจจะถาม กกต.จว.ว่าหากจะย้ายไปใช้สถานีตำรวจจะเห็นด้วยหรือไม่ อาจจะลองใช้สถานีตำรวจสักแห่งก็ได้ ขอปรึกษา กกต.จว.ก่อน ” นายสมชัย กล่าวและว่า จากปัญหาที่เกิดขึ้นในภาคใต้นั้นตนอยากลงไป 3 จังหวัดที่มีปัญหาหนัก คือ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และสงขลา
 
เมื่อถามถึงกรณที่มีเสียงเรียกร้องจากฝ่ายรัฐบาลให้ กกต.ลาออก  นายสมชัย กล่าวทีเล่นทีจริงว่า ถ้าด่ามากๆอาจจะลาออกได้  แต่ถ้า กกต.ออกไปจะเกิดอะไรขึ้น อยากให้ฝ่ายการเมืองคิดให้ดี ก่อน  โดยเฉพาะสิ่งรัฐบาลรักษาการไม่สามารถทำได้ตามรัฐธรรมนูญมาตา 181  เช่น การขออนุมัติงบกลาง งบสำรองจ่าย การทำสัญญาที่จะมีผลผูกพันต่อรัฐบาลชุดต่อไป การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ การใช้ทรัพยากรของรัฐที่ถูกมองว่าเป็นหาเสียง และการตรึงราคาน้ำมันดีเซลโดยขยายเวลาอัตราภาษีสรรพาสามิตรน้ำมันดีเซล หากไม่มี กกต. วันที่ 1 ก.พ.2557 น้ำมันดีเซลขึ้นแน่นอน  จะคิดอะไรขอให้รอบคอบสักนิด เราก็ไม่อยากให้ไปถึงจุดนั้น
 
“กกต.แต่ละคนก็มีที่มาที่ไป ถ้าไม่เป็น กกต.แต่ละคนก็มีตำแหน่งหน้าที่อยู่แล้ว แต่เมื่อเข้ามาเป็น กกต.ก็จะทำหน้าที่อย่างเต็มที่ หาก กกต.ลาออกจะเกิดผลมหาศาลทั้งเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม  ดังนั้นอย่าให้สถานการณ์ไปถึงจุดนั้น  คือ การลาออกทำให้สบายใจ แต่จะเกิดอะไรกับสังคม”นายสมชัย กล่าว
 
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึง กรณีที่การเลือกตั้งอาจได้ส.ส.ไม่ครบ 95 % จนไม่สามารถเปิกประชุมสภาฯนัดแรกได้ นายสมชัย กล่าวว่า   กกต.คงพูดคุยกันว่าจะมีทางออกอย่างไร ทั้งนี้การยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ กกต.คงไม่สามารถดำเนินการโดยตรงได้ เพราะเป็นอำนาจของผู้ตรวจการแผ่นดิน




ขอบคุณ  :  http://www.naewna.com

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

หลวงพ่อฮวบ วัดสามัคยาราม ต.บ้านด่าน อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์

หลวงพ่อกล่อม พรมสโร วัดป่ากะพี้ อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์

ต่อหัวเสือ...ไม่ร้ายอย่างเสือ