รัฐบาลทรราชมือเปื้อนเลือด...หมดความชอบธรรมต้องรับผิดชอบ

      

ทื้งๆ ที่การเลือกตั้งทั่วไปวันที่ 2 ก.พ. 2557 กลายเป็นการเลือกตั้งเลือดที่มีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย บาดเจ็บกว่า 100 รายเพียงแค่เริ่มต้นการรับสมัคร สส. และเสี่ยงที่จะกลายเป็นกลียุคมิคสัญญีอยู่รอมร่อจน 5 เสือคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ทนไม่ไหวมีความเห็นเป็นเอกฉันท์เรียกร้องให้รัฐบาลหุ่นเชิดยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เลื่อนการเลือกตั้ง แต่รัฐบาลหุ่นเชิดยิ่งลักษณ์กลับสะท้อนความดันทุรังเห็นแก่ตัวปัดข้อเสนอของกกต.และยืนกรานที่จะเดินหน้าเลือกตั้งเลือดหวังใช้เป็นเครื่องมือฟอกระบอบทักษิณกลับมามีอำนาจยึดประเทศอย่างถูกต้องชอบธรรมให้ได้โดยไม่แคร์หายนะของชาติบ้านเมืองที่จะตามมา

ล่าสุดจากเหตุการณ์รุนแรงจากการปะทะกันของมวลมหาประชาชนกับกำลังตำรวจหน่วยปราบจลาจลที่สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่นดินแดงตลอดวันที่ 26 ธ.ค.ที่ผ่านมา ทำให้วีรบุรุษมวลมหาประชาชน วสุ สุฉันทบุตร ผู้ชุมนุมที่กล้าต่อสู้กล้าเสียสละซึ่งได้รับบาดเจ็บจากกระสุนจริงของตำรวจก่อนหน้านี้ได้สิ้นใจลงแล้วเนื่องจากทนพิษบาดแผลไม่ไหว โดยประวัติคร่าวๆ ของ วสุ จบปริญญาโทจากประเทศออสเตรเลีย
ประเด็นที่หลายคนสงสัยก็คือ กำลังตำรวจหน่วยปราบจลาจลมีคนเสื้อแดงปะปนอยู่ด้วยหรือไม่ เพราะที่ผ่านมา นายขวัญชัย ไพรพนา แกนนำคนเสื้อแดงก็เคยแต่งชุดตำรวจทำงานร่วมกับหน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ตรึงกำลังอยู่ภายในรัฐสภาเพื่อเตรียมรับมือพลังมหาประชาชนมาแล้ว ทำให้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณเลขาธิการคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข(กปปส.) ตั้งข้อสังเกตว่าหน่วยปราบจลาจลจะต้องมีกองกำลังเสื้อแดงปะปนอยู่จำนวนมากเพราะที่ผ่านมารัฐตำรวจกับกลุ่มเสื้อแดงเป็นพวกเดียวกันอย่างแยกไม่ออก

พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร อดีตรองอธิบดีกรมตำรวจ เรียกร้องให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติสอบสวนและชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีคนชุดดำอยู่บนตึกสูงภายในสนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่นดินแดงซึ่งอยู่ในการควบคุมของฝ่ายตำรวจแล้วใช้ปืนยิงเข้าใส่ประชาชนด้วยกระสุนจริง

หรือแม้แต่ตำรวจที่ตายก็ยังมีข้อน่าสงสัยว่าอาจจะเป็นการสร้างสถานการณ์ของพวกเดียวกันเองที่โหดเหี้ยมอำมหิตถึงกับใช้ชีวิตของตำรวจผู้น้อยเป็นเครื่องมือป้ายผิดให้ฝ่ายมวลมหาประชาชน ซึ่งพฤติการณ์ทำนองนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วในเหตุการณ์ก่อการร้ายเผาบ้านทำลายเมืองเมื่อปี 2553

ข้อน่าสงสัยอีกกรณีหนึ่งก็คือการที่ประชาชนผู้ชุมนุมพบคนชุดดำที่สวมรอยปะปนอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุมแล้วพยายามใช้ปืนยิงใส่ประชาชน ซึ่งการ์ดของประชาชนเห็นเข้าพอดีจึงไล่กวดแต่ชายชุดดำดังกล่าววิ่งหลบหนีไปโดยทิ้งกุญแจมือไว้เป็นหลักฐานทำให้น่าสงสัยว่าจะเป็นคนในเครื่องแบบ

ความจริงเหตุการณ์รุนแรงจะไม่เกิดขึ้นเลยหากกำลังหน่วยปราบจลาจลแสดงไม่ยั่วยุตั้งแต่ช่วงเช้าของวันเกิดเหตุด้วยการเปิดฉากยิงแก๊สน้ำตา กระสุนยาง และมีกระสุนจริงรวมอยู่ด้วยหลายร้อยนัดตลอดวันใส่ผู้ชุมนุมอย่างบ้าคลั่งซึ่งเป็นการยั่วยุสร้างความเคียดแค้นให้ผู้ชุมนุมจนทำให้ลุกลามบานปลายกลายเป็นจลาจลซึ่งมีการตั้งข้อสังเกตว่าอาจเป็นแผนสร้างสถานการณ์เพื่อสลายการชุมนุมของมวลมหาประชาชน

ตำรวจยังสะท้อนความป่าเถื่อนผิดมนุษย์ด้วยการเฮโลไล่ทุบไล่ตีประชาชนที่กำลังถอยร่น รวมทั้งใช้ไม้กระบองทุบทำลายรถยนต์และรถจักรยานยนต์ของผู้ชุมนุมนับสิบคันจนพังพินาศยับเยินอย่างหนำใจ และที่ชั่วร้ายก็คือฝูงสัตว์ในเครื่องแบบรุมทุบรถยนต์ของอาสาสมัครพยาบาลซึ่งเป็นสตรีที่นั่งอยู่ในรถยนต์ด้วยความหวาดกลัวและส่งเสียงร้องอ้อนวอน แต่ฝูงสัตว์ในเครื่องแบบไม่สนใจใช้ไม้กระบองรุมทุบกระจกหน้ารถจนแตกและรถพังเสียหายทั้งคัน ซึ่งยังโชคดีที่หญิงซึ่งเป็นอาสาสมัครพยาบาลเจ้าของรถคันดังกล่าวรอดชีวิตมาได้อย่างหวุดหวิด

เพราะฉะนั้นรัฐบาลทรราชหุ่นเชิดระบอบทักษิณชุดนี้รวมทั้งองค์กรตำรวจที่ส่อพฤติการณ์เป็นทาสรับใช้ระบอบทักษิณอย่างสุดตัวจึงหมดความชอบธรรมไม่สมควรอยู่ในอำนาจบริหารชาติบ้านเมืองอีกต่อไปและต้องรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะตำรวจหากทำตัวเป็นศัตรูของประชาชนระวังจะแต่งเครื่องแบบเดินตามท้องถนนไม่ได้


ขอบคุณ  :  http://www.naewna.com

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

พระครูธรรมฐิติวงศ์คีรีเขตร (บุญใหญ่ อินทปญโญ) วัดเจดีย์คีรีวิหาร อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์

หลวงพ่อกล่อม พรมสโร วัดป่ากะพี้ อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์

หลวงพ่อฮวบ วัดสามัคยาราม ต.บ้านด่าน อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์